ผมลงทะเบียนเข้าร่วมแข่งขัน Laguna Phuket Ironman 70.3 โดยไม่รู้มาก่อนว่างานนี้ จะเป็นทั้ง Ironman ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของผม ผมเดินทางไปพักผ่อนที่ภูเก็ตตรงกับช่วงที่มีการแข่งขัน Laguna Phuket Triathlon ผมกลับมาตั้งใจซ้อมเพื่อที่จะกลับมาร่วมแข่งขันในรายการให้ได้ แต่ในปีนั้นผมพบว่ามีรายการ Ironman 70.3 ในสนามเดียวกัน แต่แข่งขันถัดออกไปหนึ่งสัปดาห์ เป็นช่วงที่เรียกว่า TRI-WEEK ของที่นั่น ผมจึงตัดสินใจจัดทีมแข่งขันรายการนี้ขึ้นมาโดยผมอาสาเล่นกีฬาประเภทใดก็ได้ ในที่สุดผมก็ได้ทีม Addicted ที่มีผู้ร่วมทีมคือ ต่อ (ชลวิทย์) มาเป็นนักว่ิง และ ณัฐ (ณัฐวุฒิ) ทำหน้าที่ว่ายน้ำให้กับทีม นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริง ๆ ที่ผมเริ่มการกลับมาออกกำลังกายด้วยโจทย์ง่าย ๆ เช่นนี้
แม้ว่าในช่วงต้นปีผมใช้กลไกการลงแข่งขันวิ่งรายการต่าง ๆ ในระยะยาวที่สุดถึง 21.1K หรือฮาร์ฟมาราธอน แต่ช่วงเวลากลางปีที่เหลือผมก็ไม่สามารถผลักตัวเองให้ซ้อมได้มากนัก การเข้าร่วมการแข่งขัน Ironman 70.3 ในรูปทีมของผมก็ผ่านไปได้ด้วยดี เป็นการจบปีของการออกกำลังกายที่น่าประทับใจปีหนึ่งเลยทีเดียวและเป็นการแนะนำผมได้รู้จักการแข่งขันกีฬาคนอึดในรูปแบบของทีม แต่เนื่องจาก Ironman เป็นกีฬาเดี่ยว การจบรายการในรูปแบบทีมไม่ได้สร้างความภาคภูมิใจแบบ Ironman ให้กับผมได้ ผมจึงตั้งใจว่าในปีถัดไปนั้นผมต้องร่วมแข่งขันแบบเดี่ยวให้ได้ วินัยในการซ้อมเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดถ้าหากผมต้องการเพิ่มชั่วโมงการออกกำลังกายจาก 3 ชั่วโมงเป็น 7 ชั่วโมงให้สำเร็จ
แน่นอนว่าการสร้างวินัยภายในระยะเวลาอันสั้น มันไม่ใช่เรื่องง่าย decoy ต่าง ๆ จึงได้ถูกวางเอาไว้เป็นจังหวะ เริ่มจากการแข่งมาราธอนแรก การแข่งขันทวิกีฬาที่สมุย การแข่งขันไตรกีฬาที่กรุงเทพ ล้วนแล้วแต่เป็น decoy ที่วางไว้เป็นข่วง ๆ เพื่อกำหนดจังหวะการซ้อมตลอดทั้งปีของผม อย่างไรก็ตามในช่วงปลาย ๆ ปี ปริมาณการแข่งขันมีน้อยลง เช่นเดียวกับการเข้าร่วมการแข่งขันที่ลดลง จนกระทั่งเกิดการแข่งขันในสภาวะอ่อนซ้อม กดดันให้ผมเกิดอาการบาดเจ็บ ในรายการสงขลามาราธอนนานาชาติ จนทำให้ผมต้องทดสอบการใช้เท้าเปล่าในการวิ่งแข่งขันในรายการสมุยมาราธอน เพื่อผลักดันความพร้อมให้เกิดขึ้นจงได้ ทั้งหมดทั้งสิ้นเป็นการเตรียมตัวตนสำหรับการแข่งขันที่จะยาวนานที่สุดในชีวิตของผม ซึ่งผมประมาณเอาไว้ว่าผมน่าจะใช้เวลาในรายการนี้ 6:30-7:00 ชั่วโมง ผมได้เรียนรู้จากการเข้าแข่งขันกีฬาคนอึดในหลาย ๆ รายการว่าการประเมินระยะเวลาการแข่งขันนั้นสำคัญกับการเตรียมตัวซ้อม และเตรียมตัวแข่งเป็นอย่างมาก
ถึงแม้กระนั้นการเดินทางอย่างหนักหน่วงทำให้การซ้อมของผมไม่เป็นไปตามแผนเสียส่วนใหญ่ และเกือบจะห่างหายไปทั้งสองเดือนก่อนที่จะย่างเข้าปลายปี แต่ยังโชคดีที่ในช่วงหนึ่งเดือนก่อนการแข่งขัน ผมไม่มีการเดินทางทำให้สามารถอัดเวลาการซ้อมได้หนักหน่วงยิ่งขึ้น เตรียมพร้อมกับการแข่งขันระยะทางยาวไกลที่สุดของชีวิตผม 7 ชั่วโมงของการออกกำลังอย่างหนักหน่วง ต่อเนื่อง คงไม่ใช่กิจกรรมที่อยู่ดี ๆ ผมนึกจะลุกขึ้นมาทำได้อย่างง่ายดาย การเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผมเป็นอย่างมาก ผมต้องย้ำคำว่าเจ็ดชั่วโมงนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้เห็นถึงความยาวนานของกิจกรรมนี้ และเพื่อให้เห็นถึงแรงจูงใจหลักที่ผมใช้ผลักดันการฝึกซ้อมของผม
การได้เข้าแข่งขันในประเภทผลัดในปีที่ผ่านมา รวมไปถึงการแข่งขันไตรกีฬาครั้งรอบเกือบสิบปีในรายการกรุงเทพไตรกีฬา ทำให้ผมคลายความเตรียด ลดความตื่นเต้นลงได้มากเมื่อได้เดินทางไปถึงภูเก็ตเพื่อลงทะเบียน รับเบอร์ ฟัง race briefing รวมไปถึงการที่ได้สวมใส่เสื้อสามารถจากงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมุย กรุงเทพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อของรายการนี้ในปีที่ผ่านมาทำให้ความมั่นใจของผมเพิ่มสูงขึ้น เพราะเราได้แสดงให้ผู้ร่วมคนอื่น ๆ ได้เห็นว่าเราเป็นคนหนึ่งที่มีประสบการณ์ ปีนี้ผมเดินทางไปล่วงหน้าค่อนข้างนาน แม้ว่าจะไม่นานอย่างที่ตั้งใจไว้คือไปไม่ทันวันปั่นสำรวจเส้นทางที่มีรถตำรวจขับนำ แต่ก็นานเพียงพอที่จะให้ผมมีเวลาปั่นซ้อมสำรวจเส้นทาง โดยเฉพาะ 2-3 ภูเขาที่ผมจะต้องเจอในช่วงสุดท้ายของการแข่งจริงได้ถึงสองครั้ง การได้สัมผัสเส้นทางเหล่านี้ก่อนการแข่งขันช่วยอย่างมากในเรื่องการวางแผน และสภาวะทางจิตใจเมื่อการแข่งขันมาถึง ซึ่งผมต้องการมันเป็นอย่างมาก
เช้าวันแข่งขันมาถึง พร้อมกับสิ่งที่ไม่คาดคิดอีกเล็ก ๆ น้อย ๆ รายการนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่รายการในประเทศที่บังคับให้มีการฝากรถที่จุดทรานสิชั่นล่วงหน้าไว้หนึ่งคืน การจอดจักรยานตากแดดทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อวานมักจะต้องปล่อยลมยางออกเพื่อป้องกันยางระเบิดโดยไม่คาดคิด ในช่วงเช้าก่อนการแข่งขันต่างคนก็จะมาสูบลมให้เต็มอีกครั้ง ซึ่งปกติทางผู้จัดการแข่งขันจะเตรียมสูบลมไว้ให้ แต่ในปีนี้ผู้เข้าร่วมแข่งขันเป็นจำนวนมากเลือกที่จะนำจักรยานออกมาเติมลมที่เต้นบริการทำให้สูบลมที่มีจำนวนจำกัดมีไม่เพียงพอ ผมจึงต้องไปขอยืมจากผู้ร่วมแข่งขันคนอื่นที่เลือกที่จะหิ้วสูบลมมาแข่งขันด้วย เหตุติด ๆ ขัด ๆ เล็กน้อยเช่นนี้ในวันแข่งขันไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก เพราะมันทำลายสมาธิและ spirit ของการแข่งขันที่บ่มเพาะมาทั้งคืน
น้อง ๆ นักเรียนอาสาสมัครที่คาดว่าล้วนมาจากโรงเรียนนานาชาติในพื้นที่เข้ามาช่วยเรื่องการเตรียมถุง T1 และ T2 นี่ก็เป็นอีกรายการที่มีความแตกต่างจากรายการอื่น ๆ ในประเทศไทย (หรืออาจจะเป็นแนวปฏิบัติในการแข่งขันนานาชาติ ไม่อาจทราบได้) ในจุดทรานสิชั่นซึ่งโดยปกติแต่ละคนจะมีอุปกรณ์วางไว้ข้าง ๆ จักรยานของตัวเอง แต่รายการนี้ทุกคนจะต้องใส่ของไว้ในถุงซึ่งแบ่งเป็นสองถุง คือ T1 และ T2 ถุงดังกลาวจะถูกแขวนไว้บนราวเพื่อให้นักกีฬาสามารถคว้าถุงของตัวเองออกไปเพื่อนำไปแต่งตัวที่เต้นแต่งตัวก่อนที่จะใส่สิ่งของทุกอย่างลงถุงทิ้งไว้ที่เต้นบริการนั้น นักเรียนนานาชาติได้สอนให้ผมผูกเงื่อนกระตุกที่จะช่วยในการปลดถุงออกได้รวดเร็วขึ้นเมื่อถึงเวลาทรานสิชั่น แต่มันกลับมาสร้างปัญหาให้กับผมมากอย่างไม่น่าให้อภัย เมื่อผมจัดการส่ิงของลงถุงเรียบร้อยแล้วผมก็รีบไปยังจุดปล่อยตัวในทันที ครอบครัวผมแม้ว่าจะเดินทางไปไหนมาไหนกับผมด้วยทุกครั้งแต่ผมก็ไม่เคยที่จะปลุกให้แต่ละคนตื่นเช้ามาเชียร์ผมเลยสักครั้ง การที่พวกเขาจะมาร่วมเชียร์ ถ่ายรูป ผมหรือไม่อย่างไรผมปล่อยให้ขึ้อยู่กับจังหวะชีวิตของพวกเขา เวลาตีห้าเศษ ๆ แบบนี้แต่ละคนจึงยังพักผ่อนอยู่ในห้องพัก ผมจึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครตามมาแล้วหากันไม่เจอ
ในปีนี้โชคไม่ดีที่มีมรสุมผาดผ่านในบริเวณใกล้เคียงเราจึงมีฝนตกในช่วงเย็น ๆ ของทุก ๆ วัน บรรยากาศในตอนเช้าวันแข่งขันจึงเป็นวันที่น่าจดจำเป็นอย่างยิ่งอีกวันหนึ่งเลยทีเดียว เมื่อทะเลมีคลื่นลมแรงมาก คลื่นบริเวณใกล้ฝั่งเรียกได้ว่าสูงท่วมหัว ต้องยกนิ้วให้กับนักกีฬาที่มีจุดอ่อนเป็นการว่ายน้ำแต่ยังสู้กับสภาพคลื่นเยี่ยงวันนี้จริง ๆ เพราะหลาย ๆ คนเหล่านั้นอาจจะสงสัยว่าเขาจะสามารถนำชีวิตกลับเข้าฝั่งมาได้หรือไม่ ผมตัดสินใจลุยน้ำเพื่อลงไปสัมผัสความรุนแรงของกระแสคลื่น แม้ว่าผมจะเป็นพวกเครื่องติดยาก การวอร์มร่างกายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผม แต่ความขี้เกียจของผมมักจะเอาชนะความจำเป็นได้เสมอ แต่วันอย่างนี้ผมไม่ค่อยอยากเสี่ยง ผมตะลุยยอดคลื่นออกไปเพื่อวอร์มร่างกายสั้น ๆ ประมาณสิบกว่านาที ก่อนที่จะต้องกลับมาเพื่อรอปล่อยตัว มาพบกับครอบครัวที่รออยู่บนฝั่ง เด็ก ๆ ตื่นกันเช้าในวันนี้เราจึงมีโอกาสได้ถ่ายรูปครอบครัวก่อนปล่อยตัวการแข่งขันไอรอนแมนสนามแรกและสุดท้ายของผม
เมื่อเสียงปล่อยตัวดังขึ้น ผมก็รอให้ทุก ๆ คนวิ่งกันไปก่อน ส่วนผมค่อย ๆ เดินตามไปเป็นคนสุดท้าย เนื่องจากกีฬาว่ายน้ำเป็นกีฬาถนัดของผม มีหลาย ๆ ครั้งผมเข้าเส้นคนแรก ๆ ในกีฬาว่ายน้ำ แต่เมื่อถึงกีฬาอื่น ๆ ก็โดนแซงออกไป ผมไม่ค่อยชอบให้ใครที่สังเกตเห็นมาถามไถ่ว่าผมหายไปไหนหลังจากว่ายน้ำนำเข้ามาอย่างนั้น ซึ่งเกิดขึ้นอย่างเลวร้ายที่สุดในงานแข่งเล็ก ๆ ในอเมริกาที่ผมว่ายน้ำเข้ามาถึงเป็นคนแรก ผมจึงเลือกที่จะเริ่มทีหลัง แล้วเข้าเส้นในกลุ่มใหญ่ ๆ ร่วมกันกับคนอื่น ๆ ที่ล่วงหน้าไปก่อน โชคดีที่ผมเลือกออกมาว่ายวอร์มก่อนในวันนี้ เพราะทักษะที่เพิ่งหัดใหม่ในการตะลุยคลื่นยักษ์ออกไปนั้น ได้ใช้ในทันที ผมเลือกที่จะใส่แว่นไว้ใต้หมวกว่ายน้ำ และใช้ความพยายามส่วนใหญ่ในการที่จะรักษาแว่นเอาไว้แทนที่จะมุ่งหน้าทำเวลาออกตะลุยไป เพราะถ้าขาดแว่นการแข่งขันก็เป็นอันจบเกมส์ ในวันนั้นมีนักกีฬาหลายคนต้องออกจากการแข่งขันเพราะสูญแว่นไปกับคลื่นลม บางคนโดนคลื่นซัดหายตั้งแต่ช่วงวอร์มร่างกาย ผมไม่แน่ใจว่ามีอีกกี่คนที่ต้องสูญเสียแว่นไปในการแข่งขันครั้งนี้ ในช่วงการแข่งขันจริง ๆ ระยะทางประมาณ 1.2 Km ในทะเลสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว การเข้าฝั่งก็เป็นเรื่องท้าทายในวันคลื่นมหึมาเช่นนี้ ผมเองถูกคลื่นซัดเสียจังหวะไปถึงสองครั้ง ครั้งแรกถูกคลื่นที่โถมเข้ามาตีที่ท้ายทอยจนเสียหลัก และอีกครั้งที่ว่ายผิดจังหวะทำให้ถูกคลื่นตีจนถูกดูดมุดลงไปใต้คลื่นขนาดยักษ์ แต่โชคดีที่ไม่มีสำลักน้ำแต่อย่างใด ถือว่ารอดตัวไปอย่างหวิดหวิด สนามแข่งนี้มีความพิเศษอยู่เล็กน้อยที่เมื่อขึ้นจากทะเลแล้ว เรายังคงต้องวิ่งไปว่ายข้ามสระน้ำเล็ก ๆ ที่เป็นที่มาของชื่อสถานที่ Laguna เป็นระยะทางอีกประมาณ 800 เมตร เพื่อจะไปยังจุดทรานสิชั่น ผมจบรายการว่ายน้ำค่อนข้างเร็วตามปกติ จากนั้นก็วิ่งเข้าไปหยิบถุง T1 เพื่อเข้าไปเปลี่ยนอุปกรณ์สำหรับใช้ในการแข่งขันจักรยานต่อไป เชื่อว่าการจัดการให้มีเต้นเปลี่ยนอุปกรณ์แยกชายหญิงที่มีการปิดล้อมค่อนข้างมิดชิดนั้น น่าจะเกิดจากเมื่อครั้งไตรกีฬาระบาดไปถึงประเทศจีนแล้วไปเจอกับเหล่านักกีฬาจีนเลือกที่จะยืนเปลือยกายล่อนจ้อนที่ข้าง ๆ จักรยานในจุดทรานสิชั่นนั่นเอง ห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวในรายการระดับนานาชาติใหญ่ ๆ จึงได้ถือกำเนิดขึ้น
การแข่งขันจักรยานในปีนี้ผมมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะมีส่วนประกอบที่สำคัญหลาย ๆ ส่วน คือผมเคยปั่นเส้นทางนี้มาแล้วในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้จักรยานของผมมีความพร้อมมากขึ้น ผมได้ไปใช้บริการ bike fitting เพื่อปรับให้จักรยานเข้ากับร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปของผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการบาดเจ็บทางหลังที่ทำให้การ setup เดิม ๆ บนจักรยานของผมส่งผลให้เกิดปัญหาปวดหลังในช่วงสิบกิโลเมตรสุดท้ายเมื่อปีที่ผ่านมา การซ้อมจักรยานระยะไกลของผมที่ดูเหมือนว่าพร้อมมากขึ้น ไม่รวมถึง aero helmet อุปกรณ์ใหม่ที่ผมเลือกมาใช้สำหรับลุยการแข่งขันไอรอนแมนแรก เขาว่ากันว่าผมจะได้ 30 วินาทีขึ้นมาเฉย ๆ เพียงแค่สวมหมวกใบนี้ แม้ว่าตามแผนนั้นผมวางไว้ว่าผมจะเปลี่ยนจักรยานคันใหม่ถ้าหากผมตัดสินใจลงการแข่งขันไอรอนแมน แต่ท้ายที่สุดผมตัวสินใจใช้โอกาสนี้ให้ Cannondale MS800 ของผมได้มีโอกาสลิ้มรสรายการไอรอนแมนครั้งแรกของเรา ในฐานะที่ร่วมรบกันมาอย่างโชกโชนถึง 16 ปี อย่างไรก็ตามด้วย setup ที่มีในขณะนี้ผมมีความมั่นใจเต็มร้อย เมื่อผมลุยถึงเขาที่หนึ่งซึ่งเป็นเขาที่ชันน้อยที่สุดแต่ก็มีความยาวค่อนข้างจะมากที่สุดของทั้งสี่เขาในรายการนี้ ผลจากการว่ายน้ำก็มาแสดงอาการทันที ปีที่ผ่านมาผมปั่นขึ้นเขานี้ได้ แต่ในปีนี้ผมต้องลงเข็น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะผลของการว่ายน้ำหรือความตั้งใจที่จะเก็บแรงเอาไว้สำหรับวิ่ง อย่างไรก็ตามในใจผมคิดว่าแรงขาผมต้องเก็บไว้ เพราะยังมีวิ่งฮาร์ฟมาราธอนรอคอยอยู่ แต่ลึก ๆ ผมเริ่มหวั่นใจ นี่ผมฟิตขึ้นกว่าปีที่แล้วรึเปล่าเนี่ย แล้วสิบกิโลเมตรสุดท้ายของการปั่นผมจะเป็นอย่างไร จะเป็นเช่นดังปีที่ผ่านมาหรือไม่
การวางแผนที่สำคัญที่สุดของผมในการแข่งขันกีฬาประเภทนี้และเป็นจุดอ่อนที่สำคัญของผม คือการกิน แม้ว่าการแข่งขันระยะเวลา 7 ชั่วโมงเช่นนี้ อาหารเสริมประเภทคาร์โบไฮเดรทดริ้ง และอาหารแท่งต่าง ๆ เริ่มมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้น นักกีฬาหลายคนเลือกใช้พลังงานแสนสะดวกเหล่านั้น เนื่องจากความสามารถในการให้พลังงานที่มากกว่า แต่ผมก็เลือกที่จะใช้เพียงเกเตอเรตกับ power gel เช่นที่ใช้กับการแข่งขันรายการอื่น ๆ ด้วยสองสาเหตุคือ ในประเทศไทยของเหล่านี้หาซื้อลำบาก การหามาใช้ในการฝึกซ้อมเป็นเรื่องยุ่งยาก ผมเองไม่อยากใช้อะไรที่ไม่เคยทดลองใช้ในช่วงซ้อมมาทดลองใช้ในวันแข่งจริง อีกสาเหตุคือ ผมเคยลองของทั้งสองอย่างแล้วบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อสมัยอยู่ต่างประเทศ ในใจยังมีความรู้สึกว่าในวันแข่งจริงผมน่าจะมีปัญหากระเดือกของเหล่านี้ไม่ลงเป็นแน่ ดังนั้นในการแข่งขันของผมแทบทุกครั้งความกังวลของผมจะอยู่ที่คำถามที่ว่า ผมมีพลังงานมากเพียงพอสำหรับวันนี้หรือไม่ อาหารเสริมเท่านี้ผมเตรียมมาเพียงพอแล้วหรือยัง แต่ในวันนี้เนื่องจากในการแข่งขันมีฝนตกหนักลงมาแทบตลอดเส้นทาง ทำให้อากาศไม่ร้อน ผมใช้ power gel และเกเตอเรต ในปริมาณที่วางแผนไว้อย่างดี และทุกอย่างเป็นไปด้วยดีจนถึงประมาณ 70 กิโลเมตร ช่วงเขาสุดท้ายที่มีความชันมากที่สุด ในวันนี้ผมเข็นมาแล้วทุก ๆ เขาซึ่งประเดิมตั้งแต่เขาที่ง่ายที่สุดในลูกที่หนึ่ง และเป็นที่แน่นอนว่าเขาที่ชันที่สุดนี้ผมก็กะที่จะเข็นเมื่อถึงเวลาเช่นกัน แต่ทว่ากำลังของผมกลับมีเหลือเฟือในช่วงเวลาขึ้นเขาลูกนั้น ผมกลับสามารถปั่นไต่ขึ้นมาเรื่อย ๆ ได้จนถึงโค้งสุดท้ายที่ถือว่าเป็นจุดที่ชันที่สุดของเขานี้ ผมวางแผนที่จะเข้าใกล้จุดหักโค้งก่อนที่จะปลดรองเท้าออกเพื่อลงเดิน
ทันใดที่ผมปลดรองเท้าออก สิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ทันทีที่ผมวางเท้าลงบนพื้น ในความรู้สึกช่วงเวลานี้ช่วงยาวนานเสียเหลือเกิน ผมเริ่มมองไม่เห็นสิ่งแวดล้อมข้าง ๆ ตัวผม มือผมบีบเบรคไว้แน่นเพื่อที่จะพยุงตัว โหนกับจักรยานไม่ให้ไหลหรือล้มลงไปบนเขาชัน ๆ ลูกนั้น ใช่แล้วผมกำลังเป็นลม แม้ว่าการเป็นลมกับผมมันเป็นของคู่กัน ในใจผมยังสงสัยว่าในวันนี้นั้น ผมจะยืนอยู่ได้นานเท่าใด ผมจะล้มลงไปหรือผมจะตื่นขึ้นมาทันเพื่อทรงตัว การแข่งขันไอรอนแมนครั้งแรกของผมจะจบลงด้วย DNF อย่างนั้นหรือ เหมือนโชคช่วยทันใดนั้นความรู้สึกแปลบบนต้นขาทั้งสองข้่างก็ปลุกให้ผมตื่นขึ้นมาจากผวัง ตะคริวกินที่ต้นขาทั้งสองข้างของผมทั้งสองข้างพร้อม ๆ ผมเลือกที่จะแสดงออกถึงความเจ็บปวดของตะคริวบนใบหน้าของผม แทนที่จะปล่อยให้อารมณ์เป็นลมหน้าซีดของผมเข้าครอบงำ โชคดีที่กองเชียร์ข้างทางพกสเปรย์คลายกล้ามเนื้อจึงเอามาฉีดให้ผมทั้งสองข้างหลังจากเห็นหน้าตาที่แหยเกพร้อมกับท่าทางจับต้นขาของผม ผมตื่นขึ้นในทันทีจากอาการเป็นลม จากนั้นจึงค่อย ๆ พยุงตัวก้าวขาออกจากจักรยานเพื่อเข็นขึ้นสู่ยอดเขาอีกไม่กี่เมตรข้างหน้า หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ผมก็ไม่มีปัญหาใด ๆ อีกเลย 10km สุดท้ายไม่ได้สร้างปัญหาให้ผมอีกแล้ว ผมเข้าจุดทรานสิชั่นด้วยเวลาไม่ต่างจากปีที่แล้วมากนัก ผมเริ่มมีความหวังเล็ก ๆ ว่าผมจะสามารถทำสถิติได้ใกล้เคียงกับสถิติของทีมของผมเมื่อปีที่ผ่านมา แต่เงื่อนกระตุกของนักเรียนนานาชาติกับฝนที่ตกลงมาตลอดการแข่งขัน มันไม่เข้ากันเสียเลย เมื่อเชือกเปียกโชก เงื่อนนั้นกลับกระตุกไม่ออก ผมต้องเสียเวลาแกะอยู่เกือบห้านาทีก่อนที่จะสามารถออกมาวิ่งต่อได้ เป็นการทรานสิชั่นที่น่าปวดหัวที่สุดตั้งแต่ผมแข่งขันมา เนื่องจากเราต้องพึ่งพาถุงใบนั้นในการเก็บอุปกรณ์ของเราทั้งหมดไม่ให้สูญหายนั่นเอง
ในช่วงวิ่งฮาร์ฟมาราธอนนี้จะเป็นช่วงที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลยในชีวิต จากการว่ายน้ำ 1.9Km ประมาณ 40 นาที ปั่นจักรยานบนเส้นทางหฤโหดกว่า 90Km ด้วยเวลากว่า 3.5 ชั่วโมง ผมออกกำลังกายอย่างหนักมาแล้วสี่ชั่วโมงครึ่ง มีเพียงวิ่งมาราธอนเมื่อกลางปีเท่านั้นที่ผมเคยใช้เวลาอยู่บนท้องถนนถึงห้าชั่วโมง การวิ่งอีก 21Km นี้ผมไม่เคยมาก่อน และแน่นอนว่าอย่างน้อย ๆ สองชั่วโมงผมยังต้องสู้ต่อไป เมื่อปีที่ผ่านมาหลังจากจักรยาน 90Km นี้ ผมแทบจะไม่สามารถเดินได้เลย ต้องพยุงตัวเพื่อเข้าเต้นท์นวดอย่างทุลักทุเล แต่วันนี้ผมต้องวิ่งต่อในทันที ผมไม่แน่ใจว่าขาและเข่าของผมจะตอบสนองอย่างไร ในเวลานี้ฝนหยุดสนิทแล้ว ราวกับรู้ว่าถึงเวลาที่จะต้องทดสอบความทนทานของนักกีฬาในช่วงการวิ่งเป็นการส่งท้าย ผมกัดฟันวิ่ง 10Km แรกไปอย่างเชื่องช้า แต่ผมค่อนข้างแปลกใจว่าหลังจากที่ทำทุกอย่างมาเป็นเวลาสี่ชั่วโมงกว่า ๆ แล้วการวิ่ง 10Km ที่ผ่านมามันก็ไม่ได้ดูเลวร้ายมากนักเลย แต่ผมเข้าใจผิดนรกรอผมอยู่ข้างหน้าอีก 10Km ที่สอง เมื่อผ่านการกลับตัวมาได้ไม่นาน ระบบของร่างกายของผมค่อย ๆ ปิดตัวลง การตอบสนองของขาของผมเป็นไปอย่างดื้อดึง ผมเริ่มต้องเปลี่ยนยุทธวิธี หันมาเดินทุกครั้งที่มีจุดให้น้ำ และวิ่งทุกครั้งที่ผมกินน้ำหมด แม้ว่าการวิ่งของผมนั้นดูเหมือนจะไม่ได้เร็วกว่าเดินสักเท่าไร การยกขาเป็นไปด้วยความยากลำบาก อากาศที่ร้อนระอุทำให้ทุกอย่างเลวร้ายขึ้นเป็นทวีคูณ
ในช่วงเวลาเช่นนี้ ผมสังเกตุเห็นหลายสิ่งหลายอย่างรอบ ๆ ตัวผม วิธีการจัดการกับอุปสรรคนี้ของคนอื่น ๆ นักกีฬาบางคนเลือกที่จะเดินเป็นเวลานาน แต่เมื่อกลับมาวิ่งอีกครั้งก็ได้ความเร็วสูง แซงผมไปได้ไกล บางคนก็ถอดใจไปแล้ว ค่อย ๆ เดินเก็บเกี่ยวน้ำที่จุดต่าง ๆ แต่บางคนยังดูเหมือนมีแรงเหลือเฟือวิ่งได้เหมือนกับเพิ่งตื่นมาวิ่งใหม่ ๆ (ผมยังสังสัยว่าแล้วทำไมเพิ่งโผล่มาตอนนี้เนี่ย) มารู้อีกทีเจอนั่งกินน้ำระยะยาวอยู่ในจุดที่เลยออกไปไม่ไกลนัก ความลำบาก การต่อสู้ ที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลากว่าเจ็ดชั่วโมงของวัน เป็นสเน่ห์ที่ทำให้ผมรักกีฬาประเภทนี้ การเข้าไปคุยกับตัวเองหลายๆ ครั้งเพื่อที่จะดึงเอาตัวเองขึ้นมาจากความสิ้นหวัง ความหมดแรง มันเหมือนกับการฝึกตนอย่างหนึ่ง ผมกัดฟันอย่างเต็มที่ และเรียกได้ว่าต้องกัดฟันจริง ๆ ก่อนที่จะลากขาตัวเองเข้าเส้นชัยได้ด้วยเวลา 6 ชั่วโมง 59 นาที ใช้เวลากับการวิ่งไปเนิ่นนานกว่า 2.5 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ผมเข้าเส้นชัย รับเหรียญ เสื้อที่ระลึกเรียบร้อย จึงนำจักรยานออกปั่นกลับที่พักเพื่อไปพบกับครอบครัวที่นั่งรอเชียร์ผมมากว่า 6 ชั่วโมง นั่งแอบถ่ายรูปผมวิ่งอย่างหมดสภาพในช่วง 10Km สุดท้าย ก่อนที่จะต้องกลับเข้าห้องพักไปอย่างหมดแรง ผมเข้าห้องพักเพื่ออาบน้ำพักผ่อน พร้อมกับใจที่เต็มเปี่ยม ผมคือไอรอนแมน เวลาที่ได้ในปีนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในปีต่อ ๆ ไปผมน่าจะสามารถปรับปรุงการวิ่งของผมได้โดยไม่น่าจะยากเกินไปนัก จักรยานของผมอาจจะปรับปรุงได้อีก การว่ายน้ำผมอาจจะซ้อมมันมากขึ้นและออกตัวแข่งขันกับชาวบ้านเขาบ้าง ผมเริ่มฝันถึงปีต่อไป ในขณะที่ร่างกาย ณ เวลานี้อ่อนล้า สะกดให้เปลือกตาผมปิดลง ผมจำไม่ได้ว่าบ่ายวันนั้นผมนอนหลับฝันว่าอย่างไร แต่ในใจผมรู้ว่าปีหน้าแม้ว่าจะไม่ใช่รายการที่ถูกเรียกว่า Ironman อีกแล้ว แต่สนามเดิม ระยะทางเท่าเดิม กับชื่อใหม่ Chalenge Phuket Triathlon เราเจอกันแน่