ขโมยขึ้นบ้านสอนอะไรผม

เมื่อสองวันก่อนมีเหตุการณ์ขโมยขึ้นบ้านอีกครั้ง ภายในระยะเวลาเพียงสองสัปดาห์ หลังจากครั้งแรกที่มีขโมยขึ้นแล้วกวาดทรัพย์สมบัติของผมไปหลายชิ้นมูลค่ารวมเฉียด ๆ ครึ่งล้าน แต่ในครั้งที่สองนั้นระบบป้องกันขโมยช่วยให้ความเสียหายจากขโมยเป็นศูนย์ แต่ด้วยความที่ทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกันอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกต่าง ๆ สิ่งที่ผ่านเข้ามาในหัวสมองของผมมันมีมากมายจนอยากที่จะบันทึกความรู้สึกเหล่านี้ไว้ก่อนที่มันจะค่อย ๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา

เมื่อผมสร้างบ้านผมคิดเสมอว่าผมไม่ต้องการติดเหล็กดัด หรือปราการป้องกันใด ๆ ในขณะที่ผมอ้างความปลอดภัยเมื่อเกิดไฟไหม้ แต่ในใจผมรู้สึกว่าการมีเหล็กดัดเหมือนผมถูกขังในกรงที่ผมสร้างขึ้น ในขณะที่คนอื่น ๆ อาจจะรู้สึกว่าเหล็กดัดเป็นการป้องกันไม่ให้ขโมยเข้ามาข้างในบ้าน อย่างไรก็ตามผมก็ต้องหาวิธีป้องกันอื่น ๆ เพื่อไม่ให้ขโมยเข้าบ้านผมโดยไม่ใช้เหล็กดัดซึ่งผมเลือกที่จะติดตั้งระบบกันขโมยตั้งแต่ยังสร้างบ้านไม่เสร็จเนื่องจากรายรอบบ้านของผมล้วนถูกขโมยขึ้นบ้านกันแล้วทั้งนั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งบ้านของตำรวจ สรุปแล้วบ้านของผมออกแบบมาให้ผมหนีไฟออกได้โดยง่าย แต่ขโมยซึ่งเข้าง่ายก็มีการเตือนภัยให้ผมรับรู้ ด้วยความคาดหวังว่าเมื่อเหล่าร้ายรู้ตัวก็จะเปลี่ยนใจหนีออกไปจากบ้านผม ไม่เลือกที่จะมาพบเจอกับผม แต่ถ้าเขาดื้อรั้นผมก็มี Smith&Wesson .38 ลำกล้อง 4″ และ ลูกซอง Remington 870 รอต้อนรับ แต่ก็โชคดีที่ว่าหลังจากที่ถูกช่างรับเหมาขโมยราวแขวนเสื้อไปในช่วงเริ่มสร้าง ผมก็ยังไม่เคยมีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้นอีกเลย ไม่ว่าผมจะอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม ไม่ว่าผมจะล็อกบ้านหรือไม่ล็อกบ้านก็ตาม นับว่าเป็นโชคของผม

แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมานี้นั้น เกิดที่บ้านของโด่งเพื่อนสนิทของผม ซึ่งผมใช้เป็นเสมือนบ้านพักที่กรุงเทพฯของผมตั้งแต่สมัยยังหนุ่ม ๆ ไม่มีครอบครัวจนปัจจุบันผมขนครอบครัวขึ้นมาคราวละ 4 คน และโด่งเองก็มีลูกสาวตัวน้อย ๆ แล้วหนึ่งคน ไม่รู้ว่าเป็นเหตุการณ์บังเอิญหรือเจตนา ขโมยที่ขึ้นบ้านโด่งทั้งสองครั้งเลือกวันที่ผมมาค้างที่บ้านโด่งทั้งสองครั้ง และทั้งสองครั้งเป็นคืนที่สองหลังจากที่ผมขึ้นมาพำนักที่บ้านพักตากอากาศส่วนตัวของครอบครัวผมหลังนี้ ในครั้งที่ 1 ขโมยเข้ามาในช่วง 2:30 – 6:00 เนื่องจากผมนั่งทำงานจนดึกและภรรยาผมตื่นเช้า มาพบกระเป๋าหลุยส์ (วันเกิด) ตั้งอยู่กลางสวน ด้วยความโมโหภรรยาขึ้นมาต่อว่าผมทันทีว่าทำไมถึงเอากระเป๋าเขาวางไว้ในสวน ด้วยความง่วงผมก็สวนกลับในทันที่ว่า “จะบ้าเหรอ” แล้วในที่สุดเราก็เข้าใจพร้อม ๆ กันว่าขโมยเข้าบ้านแน่นอน เมื่อปลุกโด่งเจ้าของบ้าน สำรวจทรัพสินย์ ผมก็พบว่าของส่วนใหญ่เป็นของใช้ส่วนตัวของผมที่วางไว้บริเวณห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นวิสัยของผู้มาพักพิงชั่วคราวอย่างผม กระเป๋า Crumpler สีส้มของขวัญจากออสเตรเลียมาจากน้องชาย ที่ด้านในบรรจุสัมภาระราคาแพงครบครัน Kindle Touch ซึ่งเป็นของขวัญวันเกิดจากน้องชายเช่นกัน iPad2 ของขวัญวันเกิดจากแม่ ที่มีมูลค่าทางทรัพย์สินและทางใจที่สุดเป็นนาฬิกาโรเล็กซ์ถึง 2 เรือน วางไว้คู่กันเรือนหนึ่งเป็นของเก่าปี 70’s ที่ผมใช้ตั้งแต่จบมหาวิทยาลัยใหม่ ๆ และเป็นเรือนที่ใช้บ่อยที่สุดในทุกสถานะการณ์เหมือนที่โฆษณาเขาว่าแบบนั้น ส่วนอีกเรือนเป็นของขวัญสะสมเนื่องในหลาย ๆ โอกาสที่ผมซื้อให้ภรรยาทดแทน TAG ที่เขาอยากได้แต่ผมไม่อยากซื้อ นาฬิกาทั้งสองเรือนวางอยู่ข้าง ๆ แมคบุ๊คแอร์ 11″ ที่ถูกยกไปกับเขาด้วยพร้อมทั้งสายไฟ สายชาร์จทั้งหมดที่เตรียมพร้อมไว้ในถุงอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เจ้าหัวขโมยมีเวลาอีกเล็กน้อยที่จะเดินข้ามไปหยิบนาฬิกาอีกสองเรือนที่เป็นของเจ้าของบ้านวางไว้อีกฝากหนึ่งของห้อง และก็ไม่ลืมที่จะหยิบ Leica D-Lux5 พร้อมซองหนัง ที่ผมซื้อให้เป็นของขวัญกับตัวเองเมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะเดินออกไปทิ้งกระเป๋าหลุยส์ไว้กลางสวน และกล่องเครื่องมือ สว่านไว้หน้าประตูบ้าน ทิ้งประตูเปิดทิ้งไว้อย่างเป็นปริศนา

ทั้งสองคน (โด่งและภรรยาของผม) มีท่าทางตื่นตระหนกพอควร ต่างโทรศัพย์แจ้งข่าวร้ายให้ญาติ ๆ รับรู้ ผมได้ยินแว่ว ๆ จากสายของโด่งที่ดูเหมือนจะพูดพาดพิงถึงผม “ของส่วนใหญ่เป็นของอาร์มทั้งนั้นเลย อาร์มมันก็ดูโอเคนะ แต่เชอร์รี่ดูตกใจ ๆ อยู่หน่อย” จริงครับ หลังจากที่ผมรู้ว่าขโมยเข้า พิจารณาสักพัก ไล่เรียงว่ามีสิ่งใดหายบ้าง มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง กระบวนการคิดของผมได้จัดการกับข้อมูลเหล่านี้ผ่านไปจนถึงขั้นตอนต่อ ๆ ไปเสียหมดแล้ว สิ่งที่ผมใช้เวลานานที่สุดในการตัดสินใจในเช้าวันนี้คือ ผมควรจะยกเลิกการประชุมในช่วงเช้าวันนั้นหรือไม่ ซึ่งในท้ายที่สุดผมก็ตัดสินใจให้มีการประชุมต่อไปโดยไม่มีผม และผมร่วมกับภรรยาและโด่งเข้าไปแจ้งความ ด้วยเหตุผลเดียวของผมคือต้องใช้ใบแจ้งความในการขึ้นเครื่่องบินกับปัตตานี โดยไม่เคยตั้งความหวังต่อการค้นพบหรือการจับได้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยแม้แต่น้อย

ในเวลาที่เหลือของวัน ผมใช้มันไปกับการแจ้งอายัดบัตรทั้งหลายทีละใบอย่างช้า ๆ ขณะที่พยายามนึกถึงข้อมูลที่อยู่ในแมคบุ๊คของผม แม้ว่าผมจะทำงานอยู่บนเมฆทุกครั้งที่เดินทาง แต่ผมก็ไม่มั่นใจว่าผมจะมีพลาดบ้างหรือไม่ ผมพยายามคิดว่ามีอะไรบ้างที่จำเป็นต้องมีการทดแทนในเวลาอันใกล้ อาร์ทเพื่อนสนิทอีกคนโทรมาถามไถ่ ภายหลังเห็นภาพกองพิสูจน์หลักฐานมาเก็บลายนิ้วมือ ที่ผมเพิ่งโพสลงไปในเฟสบุ๊ค อาร์ทปลอบว่าโชคดีนะเนี่ย เพราะที่ซอยบ้านเขาถัดออกไปอีกเพียงหนึ่งซอยเพิ่งมีเหตุการณ์ฆ่าเจ้าทรัพย์ถึง 2 ศพ ในใจผมคิดเห็นด้วย แต่เมื่ออาร์ทเสนอว่าต้องการซื้ออะไรจากอเมริกาหรือไม่ ใจผมก็วิ่งไปคิดถึงสิ่งทดแทนที่จะหาได้ง่ายจากอเมริกามากกว่าประเทศไทย บ่ายวันนั้นขณะที่ผมออกไปข้างนอกพร้อม ๆ กันกับทุกคน ผมก็เปรย ๆ กับโด่งว่า “ผมมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องค่อนข้างโชคดีนะ ในขณะที่ผมเสียทรัพย์สิน แม้ว่าจะมากเท่าไร แต่ผมก็ไม่ต้องกังวลในการกลับมาอีกครั้งของขโมย ความเป็นส่วนตัวของผมยังไม่ถูกรุกล้ำ และในขณะที่โด่งจะต้องกังวล และเกิดความรู้สึกในการถูกรุกล้ำความเป็นส่วนตัวนั้น โด่งมีค่าใช้จ่าย หรือความสูญเสียทางตัวเลขน้อยมาก ๆ” ทำไมถึงคิดเช่นนั้น ไม่เองก็ไม่เข้าใจ แต่ผมรู้สึกเช่นนั้น

วันถัดไปผมต้องเดินทางไปพัทยาเพื่อวิ่งมาราธอนแรกในชีวิตของผม ในขณะที่โด่งที่จะไปวิ่งฮาร์ฟมาราธอนแรกในชีวิตในรายการเดียวกันนั้น จะเดินทางตามไปทีหลังเนื่องจากต้องการเสริมกำลังป้องกันให้กับบ้านที่เพิ่งถูกขโมยเข้าไปหมาด ๆ ผ่านไปหนึ่งวันกับหนึ่งคืน ภรรยาของผมยังดูเคร่งเครียด เศร้าซึม ทานอาหารไม่ได้ และดูหงุดหงิดตลอดเวลา อาจจะเป็นเพราะระบบ Find My Mac ที่ผมติดตั้งเอาไว้ได้ส่งข่าวมาว่าในขณะนี้แมคบุุ๊คแอร์ของผมได้ไปปรากฎตัวอยู่บริเวณแถว ๆ ฟอร์จูนเสียแล้ว นั่นคือข้ามเมืองไปเลยทีเดียว ในใจผมได้แต่คิดว่าเจ้าหัวขโมยนี่ไม่ใช่เพียงนักฉวยโอกาสเสียแล้ว แต่มันเป็นมืออาชีพที่สามารถปล่อยของออกได้ในระยะเวลาเพียงข้ามคืนเท่านั้น โด่ง และหลาย ๆ คนโดยเฉพาะฝั่งภรรยาของผมพยายามกระตุ้นให้ผมไปคุยกับตำรวจเพื่อให้มีการตรวจค้น ปิดล้อม จับพื้นที่ในบริเวณนั้นให้ได้ แต่ด้วยที่ผมรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ใจผมคิดแต่เพียงงานใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า มาราธอน ในอีกสองวันข้างหน้าเท่านั้น คืนนั้นภรรยาผมค่อนข้างกระสับกระส่ายดูเหมือนคนไม่สามารถนอนหลับได้ ผมจึงตัดสินใจเขียนอะไรสั้น ๆ เพื่อปลอบใจเธอ ที่กลายเป็นเมนท์ที่มีคนกดไลค์มากที่สุดของผมอันหนึ่งเลยทีเดียว

เมนท์สั้น ๆ ของผมทำให้หลาย ๆ คนได้เข้าใจผมมากขึ้น ทำให้ภรรยาของผมทำใจได้มากขึ้น แม้ว่าหลาย ๆ คนมองมันเป็นเรื่องโรแมนติกแต่ผมมองมันเพียงเรื่องธรรมมะ(ชาติ) หลาย ๆ คนเข้ามาเมนท์ให้ทำใจ ให้มองถึงความที่ไม่มีใครบาดเจ็บ บางคนพยายามให้ผมใช้ธรรมมะเข้าข่ม แต่ผมเองเลยจุดเหล่านั้นมานานแสนนานแล้ว ผมไม่ได้ทำใจ ผมไม่ต้องทำใจ ในใจผมเพียงแต่รู้สึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ผ่านพ้นไปแล้ว ในสมองผมสั่งแต่สิ่งที่ผมต้องทำในปัจจุบัน รวบรวมข้อมูลโดยละเอียดถึงสิ่งของที่หายไป มูลค่าทดแทน ลำดับความจำเป็น และความเป็นไปได้ในการหาของมาทดแทน ในระบบของผมคิดไปถึงอนาคต อะไรบ้างที่ควรจะจัดหาในโอกาสที่อาร์ทจะเดินทางไปอเมริกา อะไรบ้างที่ต้องจัดหาอย่างรวดเร็ว อะไรบ้างที่รอได้ และเมื่อไรควรจะจัดหาและควรจะเป็นแบบใดและด้วยเหตุผลใด ๆ ผมไม่เคยรู้สึกเลยถึงการทำใจ

ผ่านมาสองสัปดาห์ในขณะที่ผมเริ่มจัดหาของจำเป็นบางอย่างเข้ามาแล้ว Leica D-Lux5 พร้อมซองหนังฝากให้อาร์ทหิ้วมาให้จากอเมริกา คราวนี้เพิ่ม Electronic Viewfinder มาช่วยต้อนรับวัยสี่สิบที่เริ่มจะมีปัญหาการมองแอลซีดีระยะไกล้ ๆ แมคบุ๊คแอร์ใหม่ที่สเปกแรงกว่าเดิม แรมมากกว่าเดิมสองเท่า พอร์ทธันเดอร์โบล ที่จะสามารถต่อสายอีเธอเนทได้ (รอคอยมานาน) แถมราคาถูกลงนิดหน่อย และแล้วพวกหัวขโมยมันก็กลับมาอีก คราวนี้เป็นวันหยุดยาว และเราทุกคนไม่อยู่บ้าน ทริปสิงห์บุรี ชัยนาทของเราถูกทำลายด้วยโทรศัพย์จากพี่สาวของโด่งแจ้งว่าบ้านถูกขโมยขึ้นอีกแล้ว คราวนี้แงะทั้งประตูรั้วออกเป็นแนวกว้าง และยกบานประตูหน้าออกทั้งบาน กะว่าจะยกเค้าไม่ให้เหลือหลอกันเลยทีเดียว แต่ทว่าระบบกันขโมยที่โด่งซื้อมาติดตั้งเมื่อวันก่อน ทำหน้าที่มันได้อย่างดีและคราวนี้ไม่มีอะไรหายไปแม้แต่ชิ้นเดียว สิ่งที่ผมเปรยกับโด่งในวันนั้นมากระจ่างกับตัวผมในวันนี้ โด่งโชคดีที่คราวที่ผ่านมาการเตือนภัยนั้นโด่งไม่ต้องสูญเสียอะไร ถ้าไม่มีวันนั้น วันนี้อาจจะไม่เหลืออะไร แม้ว่าผมจะโดนภรรยาบ่นเล็ก ๆ ที่หลังจากเมื่อทุก ๆ คนพบว่าไม่มีอะไรสูญหายแล้ว ผมก็สอบถามอย่างใจเย็น ๆ ว่ากระเป๋าสะพายผมยังอยู่หรือไม่ เพราะผมทิ้งเงินสดไว้ครึ่งแสน ยังไม่มีโอกาสไปเข้าธนาคาร ในใจผมคิดว่าในเมื่อไม่มีอะไรหายของผมก็คงไม่หายด้วยเช่นกัน แต่ก็ลุ้นอยู่หน่อย ๆ ว่ากระเป๋าของผมวางไว้ที่ประตูอีกเช่นเคย คงไม่แปลกอะไรถ้าสิ่งของที่ขโมยเอาไปได้นั้นจะเป็นเพียงกระเป๋าผมเพียงใบเดียว เพราะมันพร้อมหิ้วเสียเหลือเกิน

ในเวลานี้โด่งเพิ่มกำลังป้องกันบ้านอีกหลายระดับ เสริมความสูงรั้วเหล็กแหลมให้ไม่น่าเข้ายิ่งขึ้น ติดตั้งระบบกันขโมยสองระบบแบบซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อความอุ่นใจ และยังมีแผนติดตั้งระบบ spot light ที่เปิดด้วย motion sensor ในตำแหน่งล่อแหลมต่าง ๆ อีกด้วย ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยการทำถนนใหม่ ทาสีประกาศให้เป็นพื้นที่ภายใต้การสอดส่อง บันทึกภาพ และระบบตรวจจับหลายระบบ ที่บริเวณด้านหน้าบ้านของตัวเอง รวมจนถึงปราการด่านสุดท้ายคืออาวุธปืน สิ่งที่ผมสนใจคือมีอะไรเกิดขึ้นบ้างภายในจิตใจของผู้ที่ถูกล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัว อย่างการที่ขโมยขึ้นบ้านในกรณีของโด่งนั้น ความโกรธแค้น ความรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว ความรู้สึกถูกละเมิด ความรู้สึกไม่ปลอดภัย ในภาวะความกดดันทางจิตวิทยาของมนุษย์นั้นเราทำอะไรลงไปบ้างเพื่อรักษาเยียวยา ความรู้สึกเหล่านั้น สำหรับผมเรื่องนี้มันน่าสนใจ ผมได้เรียนรู้หลายอย่างถึงความอ่อนแอ เปราะบางของจิตใจมนุษย์ มุมมอง ลำดับความสำคัญของสิ่งต่าง ๆ รอบตัวของผม ที่คนรอบ ๆ ตัวของผมให้คุณค่า สำหรับผมมันเป็นบทเรียนที่สอนผมหลาย ๆ อย่าง ฝึกผมหลาย ๆ อย่าง แต่สิ่งที่ผมดีใจที่สุดคือมันได้สอนหลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่างที่ผมอยากให้คนรอบตัวของผมได้รู้ ได้สัมผัส เพราะบางสิ่งบางอย่างนั้น ไม่สามารถที่จะสอนกันได้ แต่ต้องประสบพบเจอกับตัวเองเท่านั้น และบทเรียนครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี แม้จะมีค่าใช้จ่ายที่ดูจะสูงไปบ้างเล็กน้อยแต่ทุกคนปลอดภัยดี จะว่าไปแล้วยังคุ้มอยู่เหมือนกัน

Sense of security.

ผมมีเรื่องนี้อยู่ในใจมาเป็นเวลานานมากแล้ว แต่มันยังไม่ตกผลึกเสียที แต่เรื่องราวในไม่เกินหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทำให้ผมรู้สึกอยากเขียนมันออกมาทั้ง ๆ ที่ยังอยู่ในสภาวะอสันฐานอยู่เช่นนี้ เรื่องของเรื่องคือ เวลานี้ผมใช้ชีวิต ทำงาน สร้างครอบครัว อยู่ที่จังหวัดปัตตานี มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเสียจริง ๆ ที่ผมพูดเพียงเท่านี้ทุกคนก็เข้าใจได้ในทันทีว่าผมกำลังพูดถึงเรื่องอะไร และทำไม แต่เป็นเรื่องที่แปลกที่ ณ เวลานี้เอง ตัวของผมเองยังไม่รู้ว่าจะพูดอะไร และพูดไปทำไม

ย้อนกลับไปก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้นนั้น มันยังเป็นเหตุการณ์ย่อย ๆ แม้ว่าจะขึ้นหน้าข่าวในต่างประเทศ นายกรัฐมนตรี ณ เวลานั้นยังสรุปว่านี่มันเป็นเรื่องของโจรกระจอก ผมเองเมื่อถูกถามโดยอาจารย์ที่ปรึกษาชาวต่างชาติ ผมเองก็ตอบไปในทิศทางที่ไม่แตกต่างกัน ว่าสิ่งเหล่านี้อยู่คู่ปัตตานีมาเป็นเวลานานแสนนานแล้ว นี่ก็เป็นเพียงอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นและดับไปในเวลาไม่ช้าไม่นาน นายกฯ คาดการณ์ผิดพลาด ผมเองก็ผิดเช่นเดียวกันเมื่อเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดรุนแรงขึ้น และต่อเนื่องมาเป็นเวลายาวนาน แม้ว่าจะมีช่วงที่หนักขึ้น เบาลงบ้างสลับกันไป แต่ ณ เวลานี้ ผมเองก็ไม่มีความรู้สึกว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะสงบไปได้โดยง่าย

ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุการณ์ เพื่อนผมหลายคน ทั้งที่สนิท และไม่สนิทก็ทยอยย้ายออกนอกพื้นที่ ถ้าหากตัวเองทำได้ ปัจจุบันนี้มีเพียงแต่ผู้ที่ไม่สามารถย้ายออกได้ มีภาระผูกพันธ์ แต่คงมีน้อยคนนักที่จะเลือกตัดสินใจที่จะยืนอยู่ถ้ามีทางเลือกที่จะไป เท่าที่ผมนึกดู แทบไม่เห็นใครเลยเท่าที่คิดออกมาได้ แน่นอนว่าหลายคนทั้งที่รู้จักกัน ไม่รู้จักกัน หรือเพิ่งรู้จักกันก็ได้เคยถามผมด้วยคำถามมาตรฐาน “ไม่คิดจะย้ายเหรอ” แม้ว่าคำตอบของผมคือ “ไม่เคยคิด ไม่คิด และคงไม่ย้าย” แต่เหตุผลของผมในคำตอบเหล่านั้นดูเหมือนว่าจะค่อย ๆ เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ดั้งเดิมผมคำตอบของผมขับดันมาจากความรู้สึกในคำว่า “บ้านเกิด” ผมเกิดที่นี่ แม้ว่าจะมีโอกาสใช้ชีวิตที่นี่ได้ไม่นานนัก แต่จากนี้ต่อไปจะเป็นโอกาสที่ผมจะได้ใช้ชีวิตในบ้านเกิด และอาจจะมีโอกาสสร้างอะไรตอบแทนแผ่นดินเกิด อย่างที่เขาเล่าลือกันว่ามันสร้างความภาคภูมิใจเป็นหนักหนา แต่ในวันนี้แม้ว่าผมจะยังตอบคำตอบเดิม เหตุผลของผมดูเหมือนจะเปลี่ยนไปแล้ว

หลายคนเมื่อได้รับคำตอบจากผม ก็เข้าใจได้ในทันทีถ้าหากเขาไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่คนปัตตานีก็คงไม่ใส่ใจอะไรมากเพราะนั่นไม่ใช่เหตุผลที่เขาเหล่านั้นอยากได้ยิน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของหาดใหญ่โตอย่างมหาศาลเนื่องจากเหตุการณ์นี้ จนผมรู้สึกว่าผู้ก่อความไม่สงบน่าจะเรียกภาษีพิเศษจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่หาดใหญ่ได้โดยไม่ผิดจรรยาบรรณมากนัก อย่างไรก็ตามตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ปัตตานีก็ไม่ได้ซบเซา พื้นที่เปล่าถมแล้วราคาก็ตกประมาณสี่ล้านเศษ ๆ ห้องแถวเล็ก ๆ ที่ผมอาศัยอยู่ราคาก็ตกประมาณ 3-4 ล้าน ไม่ได้เหมือนกับเป็นราคาที่ดินในสนามรบเอาเสียเลย หลาย ๆ ปีที่ผ่านมา แม้ว่าระบบการใช้ชีวิตจะเปลี่ยนไปค่อนข้างมากแต่เราก็สามารถเห็นความสามารถในการปรับตัวเพื่อดำรงชีวิตของชาวปัตตานี ไม่ว่าจะเป็นที่จอดรถที่เกาะกลางถนน เครื่องตรวจโลหะในงานมอร์เตอร์โชว์ ตลาดโต้รุ่งที่ปิดสี่ทุ่ม การตักบาตรภายในบริเวณวัด หรือแม้กระทั่งการวิ่งออกกำลังกายหลังพระอาทิตย์ขึ้น เป็นต้น

เมื่อคิดย้อนกลับไปตัวผมเองก็ใช้เวลายาวนานกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เมื่อผมเริ่มสร้างบ้านผมเลือกที่จะไม่ใช้เหล็กดัดทั้งบ้าน แต่ใช้เทคโนโลยีของระบบป้องกันขโมยแทน ผมเลือกที่จะใช้ตู้เซฟขนาดห้าคนแบกวางไว้บนชั้นสองเพื่อเก็บของมีค่าชิ้นเล็ก ๆ ที่พอจะมี ความปลอดภัยที่ผมเพิ่มเข้าไปนี้นั้นบางครั้งทำให้ผมพอใจเพียงกับการตอบคำถามหลาย ๆ คนที่ไม่เข้าใจ เพราะแค่เรื่องเหล็กดัดผมก็เป็นกลุ่มไม่เกิน 5% ที่เลือกเส้นทางนี้ ในขณะที่ความรุนแรงรุมเร้า ระบบกล้องวงจรปิดเป็นที่นิยม ผมไม่ได้เลือกที่จะใช้มัน ทำไมผมไม่แน่ใจ แต่ผมรู้สึกปลอดภัยมากกว่าเมื่อไม่มีกล้องวงจรปิด เพื่อนหลายคนที่รู้ว่าโคตรเหง้าตระกูลผมเป็นคนปัตตานีอาจจะเปรย ๆ ว่าผมเป็นคนในพื้นที่คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก และก็คงไม่กลัวอะไรเพราะคุ้นเคย มันก็ไม่ผิดแต่ก็ไม่ถูกเท่าที่ควร

ครอบครัวของผมมีโรงงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ค่อนข้างอ่อนไหวพอสมควร ก่อนที่ท่านนายกฯคนเดิมนั้นจะยอมรับว่านี่ไม่ใช่แค่ปัญหาโจรกระจอก โรงงานของเราถูกเผาจนอาจจะเรียกได้ว่าราบเป็นหน้ากลองมาแล้วหนึ่งครั้ง อาคารกว่า 80% หายไปภายในเวลาไม่เกินสี่สิบนาที และมีความพยายามอีกหลายต่อหลายครั้ง จนเราเองต้องติดตั้งระบบฉีดน้ำดับเพลิง ระบบเตือนไฟไหม้ กล้องวงจรปิด แต่ก็ไม่วายก็ยังมีการพยายามเข้ามาเผาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ จะมีก็แต่การโยนระเบิดข้ามรั้วเข้ามาทำให้เกิดไฟไหม้นอกตัวอาคาร ตั้งแต่ครั้งแรก ๆ ความรู้สึกที่ผมต้องการป้องกันเพิ่มเติมนอกเหนือจากระบบต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วนั้น ผมจึงไปหาปืนสั้น และปืนยาวมาเป็นเจ้าของพร้อมกับการเรียนการใช้อาวุธอย่างจริง ๆ จัง ๆ ผ่านการฝึกหลายคอร์สเข้าสู่ระดับครูฝึก ความมั่นใจในการใช้อาวุธทำให้ผมกล้าพกมันออกไปเพื่อเดินลาดตระเวณรอบพื้นที่โรงงานทุกครั้งหลังเกิดเหตุการณ์ เพื่อวางแผนการป้องกันในระดับที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่การขุดคูน้ำล้อมรอบ สร้างรั้วสูงสามเมตรล้อมรอบ หรือแม้กระทั่งยืนยามพร้อมปืนยาว แลกเปลี่ยนคำสนทนาทางสายตาระหว่างกันกับกลุ่มชายหนุ่มแปลกหน้าที่มาสังเกตุการณ์ด้านข้่างโรงงานของผม การพกปืนในพื้นที่ปัตตานีเป็นเรื่องถูกกฏหมายและผมเองก็ได้ไปขอใบอนุญาตินั้นเช่นเดียวกัน ในที่สุดผมก็พบว่าผมพกปืนตลอดเวลา และวิตกตลอดเวลาว่าทักษะการยิ่งปืนด้วยมือซ้ายผ่านกระจกด้านคนขับเข้าสู่มือปืนประสงค์ร้ายที่ขี่มอร์เตอร์ไซค์ประกบจะถูกทดสอบไม่วันใดก็วันหนึ่ง ปืนทุกกระบอกในบ้านผม บรรจะกระสุนเต็มพร้อมกระสุนสำรองวางคู่กัน แต่เวลาเช่นนั้นก็ค่อย ๆ ผ่านไปพร้อม ๆ กับอายุใบอนุญาติพกปืนของผม และสมาชิกใหม่ในครอบครัวผมเริ่มตั้งแต่ภรรยาของผม

ภรรยาผมมีอาชีพเป็นแม่บ้าน ส่งผลให้ผมเริ่มไม่พกกุญแจบ้านติดตัว เนื่องจากบ้านและที่ทำงานของผมอยู่ใกล้กันมากทำให้เวลากลับบ้านของผมไม่เคยเป็นที่แน่นอนเลยสักครั้ง บางวันเร็วบางวันช้า แม่บ้านของผมเริ่มมีความจำเป็นต้องเปิดประตูทิ้งไว้เพื่อรอผมกลับมาบ้านในขณะที่เธอเองอาจจะพาลูก ๆ ออกไปบ้านเพื่อน เดินเล่น หรือไปสนามเด็กเล่น จากที่กระทำเป็นครั้งคราวจนปัจจุบันเป็นนิสัยที่บ้านเรานั้นแทบจะไม่เคยล็อกประตูบ้านเอาเสียเลย ในขณะที่ในเวลานี้ปืนของผมก็ไม่ได้อยู่ใกล้มืออีกต่อไป แม้ว่าจะไม่ได้ไกลมือมากนัก แต่ก็ไม่ได้มีการบรรจุกระสุนหรือสามารถหากระสุนได้โดยง่ายเหมือนเคย สัญญาณกันขโมยจะถูกใช้ในกรณีพิเศษเมื่อมีการเดินทางเท่านั้น ไม่ได้มีการใช้ทุกวันเช่นเคย ในระหว่างที่เหตุการณ์รุนแรงขึ้นทุกวัน ๆ ความรู้สึกในความปลอดภัยของผมกลับเพิ่มมากขึ้น ๆ จากคำขู่ของภรรยาของผมว่าวันใดที่ผมหยิบจักรยานมาปั่นไปทำงานจะเป็นวันที่เธอเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิดที่สิงห์บุรี เวลานี้นอกจากผมปั่นจักรยานไปทำงานทุกวันแล้ว ผมยังเขียนบทความหลาย ๆ บทความชวนคนมาปั่น ผมยังปั่นจักรยานออกกำลังกายไปในพื้นที่ ๆ ใคร ๆ ไม่กล้าแม้จะขับรถยนต์ผ่าน ความรู้สึกปลอกภัยนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อไร ผมเองก็สงสัย

หลายคนยังสงสัยและผมเองยังได้คำถามในทำนอง “อยู่อย่างไร” มาให้ตอบอยู่เสมอ คำตอบพื้นฐานที่ผมให้กลับไปมักจะเป็นการอธิบายถึงพื้นที่นอก ๆ ไกล ๆ หรือในบริเวณที่ผมเองไม่ได้มีความจำเป็นต้องผ่าน เวลาที่ผมไม่จำเป็นต้องไป บางครั้งผมใช้หลักการทางสถิติในการอธิบายถึงความเสึ่ยงที่เกิดขึ้นได้เมื่อคิดถึงชั่วเสี้ยววินาทีของการเกิดระเบิด ระยะทำลายของระเบิด และโอกาสที่ผมหรือคนในครอบครัวจะเข้าไปอยู่ในระยะพื้นที่นั้น ๆ ในระยะเวลานั้น ๆ เมื่อคำนวณดูแล้วหากคิดเป็นการลงทุน สลากกินแบ่งรัฐบาลอาจจะให้ผลตอบแทนที่เชื่อถือได้มากกว่าเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อเขาเหล่านั้นได้รู้ว่าบ้านของผมอยู่หน้าโรงแรมซีเอส ที่ห่างจากที่เกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ ๆ ในปัตตานีไม่เกินสองร้อยเมตร และผมเดินเล่นผ่านจุดนั้นทุกวัน และจุดเกิดระเบิดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอเมืองปัตตานีนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นที่ที่ครอบครัวเราใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันทั้งนั้น แต่วันนี้ผมไม่ได้มีความรู้สึกขาดความปลอดภัยเลย เมื่อเทียบกับวันที่ผมพกปืน หรือมีปืนขึ้นลำกล้องเตรียมพร้อม หรือวันที่ผมใช้รถยนต์พร้อมปืนคาดเอวเหมือนไปออกรบเมื่อก่อน

ปัจจุบันกับที่บางคนบ่นว่ารัฐบาลไม่ให้ความสนใจ บางคนบอกว่าทหารปฏิบัติการไม่ถูกต้อง ค่าเสี่ยงภัยไม่สูงเพียงพอ บางคนไม่กล้าไปตลาดโต้รุ่ง ไม่กล้าเข้าเมืองปัตตานี 80% ของคนในประเทศไม่กล้าเข้าพื้นที่ แม้กระทั่งคณะกรรมการ สมศ. ที่ต้องตรวจมาตรฐานการศึกษาของคณะของเราที่วิทยาเขตปัตตานีนี้ยังเลือกตรวจอยู่ห่าง ๆ ที่หาดใหญ่ การจัดประชุมคณบดีที่เราเองเป็นเจ้าภาพต้องไปจัดที่สุราษฏร์ ผมกลับรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นทุก ๆ วัน มันเป็นเพราะอะไร เพราะผมไม่มีอาวุธข้างกาย ไม่มีอาวุธพร้อมใช้ หรือเพราะผมไม่สนใจที่จะล็อกประตูบ้าน เป็นเพราะผมใช้จักรยานปั่นไปทำงาน หรือปั่นออกกำลังกายเข้าไปในพื้นที่เสียงภัย เป็นเพราะผมวิ่งออกกำลังกายจนเพื่อน ๆ ของพ่อต้องมาเตือนเรื่องความปลอดภัยกับพ่อ หรืออะไรกันแน่

ในช่วงเวลาไม่เกินสองเดือนที่ผ่านมามีระเบิดใหญ่ที่สงขลา ยะลา นราธิวาส และเมื่อคืนที่ผ่านมาที่ปัตตานี ก็อีกแล้วไม่เกินสองร้อยเมตรจากบ้านของผม ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกถึงความปลอดภัยของผมได้ถูกกระทบเลย เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมามีขโมยขึ้นบ้านเพื่อนของผมในวันที่ผมมาพักพอดิบพอดี และกวาดเอาของใช้ส่วนตัวทั้งหมดของผมไป นาฬิกาของผมและภรรยา กล้องถ่ายรูป เครื่องมือทำมาหากินอย่างโน๊ตบุ๊ค ไอแพด คินเดิล ผมยังรู้สึกถึงความอันตรายของพื้นที่กรุงเทพฯ มากกว่าปัตตานี จริง ๆ แล้วเป็นอะไรกันที่จะสร้างความมั่นใจ ความรู้สึกปลอดภัยให้กับใครคนใดคนหนึ่งผมสงสัย รัฐบาล การข่าว สถานการณ์ เหตุการณ์ ประสบการณ์ การเตรียมพร้อม หรือเป็นเพียงจิตใจของเรา ผมเริ่มสงสัยว่างบประมาณหมื่นล้านที่ลงไปในพื้นที่กับชีวิตแล้วชีวิตเล่าที่สูญเสียไป  จะเห็นผลได้เท่ากันกับการเก็บปืน ปั่นจักรยาน แล้วก็เปิดประตูบ้านอย่างที่ผมทำอยู่หรือไม่