จักรยานพ่อลูกอ่อน : Chariot review

ความฝันของคนปั่นจักรยานที่มีลูกเล็ก ๆ ทุกคนคือการได้พาลูก ๆ ร่วมไปกับกิจกรรมที่เรารัก นั่นคือการปั่นจักรยาน แต่กว่าลูก ๆ จะสามารถออกถนนปั่นร่วมกับคุณพ่อได้ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีอายุโดยประมาณ 10 ขวบขึ้นไป (ตามแต่สภาพการปั่นของคุณพ่อ) นั่นเป็นระยะเวลานานมากเลยทีเดียว ผมไตร่ตรองแล้วในกรณีของผม ผมต้องรออีกประมาณ 7-8 ปี ป่านนั้นผมก็เข้าใกล้วัยเกษียณเข้าทุกทีแล้ว มันนานเกินไป เพราะลูก ๆ สองคนของผมเพิ่งจะได้วัยสองขวบกว่า ๆ และขวบกว่า ๆ กันเท่านั้น ผมจึงเริ่มมองหาวิธีอื่น ๆ ที่เป็นไปได้

หลังจากทำการค้นหาในอินเตอเนตสักพัก ก็พบว่าการนำลูก ๆ ไปปั่นด้วยกันกับเรานั้นสามารถกระทำได้ 4 วิธีด้วยกัน

  1. ใช้จักรยานแบบพิเศษที่มีพื้นที่สำหรับเด็ก ๆ : ส่วนใหญ่คล้าย ๆ ซาเล้งบ้านเราแต่มีขนาดเล็กกว่าและออกแบบให้เด็ก ๆ นั่งหรือยืนกันในกะบะ
  2. ใช้จักรยานพ่วง (Tandem) : ประเภทที่เห็นกันเยอะ ๆ แถว ๆ ทะเลบางแสนที่ให้เช่าปั่นกัน
  3. การใช้เก้าอี้เด็กซ้อนท้าย หรือวางด้านหน้า : คล้าย ๆ จักรยานเฟสสันบ้านเรา หรือแบบที่นั่งเด็กสำหรับมอเตอร์ไซด์ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ เพียงแต่ว่าในกรณีเด็กเล็กก็จะมีเข็มขัดรัด พนักพิงที่ดูเรียบร้อยขึ้นมา
  4. การใช้รถลากในรูปแบบต่าง ๆ (trailor) : กรณีนี้อาจจะเป็นพ่วงข้าง หรือพ่วงท้าย ซึ่งจะมีขนาดต่าง ๆ กันให้เลือกสรร

เนื่องจากในปัจจุบันผมมีจักรยานอยู่แล้ว 3 คัน การที่จะซื้อคันใหม่มาเพิ่มอีกคันเพื่อการนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าทำเท่าไรนัก แม้ว่าผมจะเจอเวปที่ชื่อว่า Practical Cycle ที่มีจักรยานแบบอื่น ๆ ที่แตกต่างไปจากเสือหมอบ และเสือภูเขาที่ผมมีอยู่เป็นอย่างมาก และหลาย ๆ คันในเวปนี้อาจจะเหมาะสำหรับใช้คนเด็ก ๆ อย่างที่ผมต้องการทำ แต่พอมาคิดดูแล้ว ไม่เอาดีกว่า ทำให้ตัวเลือกของผมเหลืออยู่เพียงข้อ 3-4 เท่านั้น

จริง ๆ แล้วทางเลือกที่ง่ายที่สุด และดูเหมือนว่าจะเป็นที่ยอมรับกันมากที่สุด น่าจะเป็นข้อที่ 3 ผมจึงทำการค้นคว้าเพิ่มเติม สืบราคา แต่มาพบข้อเสียของระบบนี้นั่นก็คือ การบรรทุกบนตัวจักรยานจะทำให้การบังคับและการทรงตัวเปลี่ยนแปลงไป และยิ่งไปกว่านั้นอุบัติเหตุจักรยานล้มเมื่อมีเด็กนั่งในเก้าอี้เด็ก เมื่อมานึกภาพดูแล้วค่อนข้างน่ากลัวเกินไปสำหรับผม เมื่อนำข้อเสียสองข้อนี้มารวมกันแล้ว ผมตัดสินใจได้ทันทีว่าผมต้องเลือกข้อ 4 เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ในชีวิตผมเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับจักรยานหลายครั้ง เพียงนึกภาพย้อนกลับไปแล้วให้ลูก ๆ นั่งซ้อนผมอยู่ ผมไม่กล้าเลยทีเดียว

เมื่อผมตัดสินใจเลือกข้อ 4 แล้ว จึงเริ่มกระบวนการจัดหา ก่อนที่จะพบว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว ผมต้องสั่งสินค้าตรงจากอเมริกา และเนื่องจากค่าขนส่งสินค้าแพงมาก ๆ ผมจึงตัดสินใจเลือกใช้ยี่ห้อที่ดีที่สุด แม้ว่าจะไม่ได้ใช้รุ่นที่แพงที่สุดของเขาก็ตาม เท่านี้ก็แทบจะหมดตัวกันเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นสินค้าใหญ่ขนส่งทางเรือ ผมต้องรอนานกว่าสองเดือนกว่าที่เจ้า Chariot Cougar2 จะมาถึงบ้านของผม ใช่แล้วครับ ผมเลือกรุ่นรองทอปและนั่งได้สองคน

ผมรีบประกอบและทดลองใช้ในวันแรกในทันที แน่นอนว่ามียี่ห้ออื่น ๆ อีกหลายยี่ห้อ และรุ่นอื่น ๆ ที่ถูกกว่านี้อาจจะมากกว่าครึ่งหนึ่ง แต่ผมไม่เคยได้เห็นและไม่มีโอกาสได้ใช้จึงไม่รู้ว่าค่าใช้จ่ายที่ผมจ่ายแพงขึ้นนั้น มันแพงเกินไปหรือไม่ อย่างไรก็ตามจากค่าใช้จ่ายทั้งหมดซึ่งเป็นค่าขนส่งถึงหนึ่งในสาม ผมใช้มันมาแล้วกว่าสามสี่เดือน ผมว่าคุ้มค่าแน่นอนครับ สินค้ามีการห่อหุ้มอย่างดี คู่มือมีรายละเอียดมากมาย และเวปไซด์มีวิดีโอช่วยเหลือมากมาย

ผมติดตั้งระบบเข้ากับจักรยานเสือภูเขาของผม ผมใช้เสือคันนี้เป็นจักรยานหลักในการเดินทางทั่วไป เหมาะสมกับที่จะติดตั้ง Trailer ตัวใหม่ตัวนี้ สิ่งแรกที่เห็นจากระบบของ Trailer นี้คือระบบความปลอดภัยที่เป็นระบบสองชั้นในทุกจุดเชื่อมต่อ เมื่อจุดเชื่อมต่อชั้นแรก fail จะมีระบบป้องกันรองรับอยู่อีกหนึ่งจุดเสมอ ซึ่งทำให้สบายใจในระบบขึ้นเป็นอย่างมาก จุดเชื่อมต่อกับจักรยานเป็น Ball Joint ซึ่งจะทำให้จักรยานสามารถล้มลงนอนได้โดยไม่ดึงให้ตัว Trailer ล้มลงไปด้วย นี่เป็นเหตุผลหลักในการซื้อระบบนี้ของผม เพราะจักรยานล้มไม่ได้เกิดขึ้นยากนักสำหรับผม

Cougar 2 สามารถนั่งได้พร้อมกันสองคนโดยจะมีเข็มขัดรัด 5 ตำแหน่ง อีกทั้งยังสามารถปรับตำแหน่งให้นั่งกลางได้ถ้าหากมีคนนั่งเพียงหนึ่งคน การปรับเปลี่ยนสามารถทำได้ง่ายเหลือเชื่อ เหมือนกับชิ้นส่วนอื่น ๆ ทั้งระบบ ตั้งแต่การเปิดขึ้นมาใช้ ใส่ล้อ ต่อ hitch หรือการพับเก็บ ถอดล้อ น่าจะใช้เวลาไม่เกินสามนาทีในแต่ละครั้ง ซึ่งถือว่าระบบออกมาให้สามารถพับเก็บ และเอาออกมาใช้ได้โดยง่าย

ระบบอื่น ๆ ที่พร้อมสำหรับความสะดวกสบายของลูก ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบกันกระเทือนแบบแหนบที่ปรับความแข็งได้ ยางล้อขนาดใหญ่ ช่องหน้าต่างด้านข้าง ระบบกันฝน ระบบกันแดด ทั้งหมดที่เปิดปิดได้ และมีการออกแบบในรายละเอียด การเก็บ การเปิดใช้งาน ถุงเก็บของ ระบบปรับเปลี่ยนเป็นรถเข็น ระบบปรับเปลี่ยนสำหรับวิ่ง และอื่น ๆ สินค้าชิ้นนี้เป็นผลิตภัณฑ์อีกชิ้นที่ผมต้องยอมรับว่าเป็นการออกแบบที่คิดในรายละเอียดปลีกย่อยมากที่สุดเท่าที่เคยเจอมาในชีวิตของผม

ผมไม่ได้ทดสอบความสบายในการนั่งของ Cougar 2 แต่เท่าที่ได้ใช้กับลูก ๆ ของผม ผมคิดว่ามันคงน่าจะสบายอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะกว่าร้อยละแปดสิบ ลูก ๆ ผมหลับหลังจากเริ่มปั่นไปได้สักประมาณ 10 นาที ทั้ง ๆ ที่เมื่อเริ่มปั่นเสียงคิดคักหยอกล้อกันของสองพี่น้องจะดังสนั่นขนาดไหนก็ตาม ผมยังไม่ได้วางแผนจะเดินทางไปไหนไกล ๆ กับ Trailer ตัวนี้ครับ คิดว่าคงต้องค่อย ๆ เพิ่มระยะทางให้กับลูก ๆ เขาก่อน ตอนนี้ผมยังไม่เคยปั่นเกินระยะ 15-20 นาทีเลยครับ ไม่รู้ว่านานกว่านี้เด็ก ๆ จะเบื่อจนเกิดอาการควบคุมไม่ได้หรือไม่ คงค่อย ๆ เรียนรู้กันต่อไปครับ