ในที่สุดเราก็แย้มไว้แล้วว่าเรากำลังเผชิญกับภาวะอาการที่เรียกว่า “ภาวะมีบุตรยาก” นี่คือชื่ออาการทางการแพทย์ที่นิยามกับคู่สามี-ภรรยาที่อยู่กินกันมาเกินหนึ่งปี มีเพศสัมพันธ์กันสม่ำเสมอ แล้วยังไม่มีโอกาสที่จะเห็นขีดสองขีดบนชุดตรวจครรภ์ (นั่นหมายถึงท้อง) พวกเรารู้แล้วว่านิยามดังกล่าวว่าไว้อย่างนั้น แน่นอนว่าคำนิยามออกจะมีความไม่ชัดเจนอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ก็พอที่จะเข้าใจได้ในระดับหนึ่ง ความไม่ชัดเจนนั้นคืออะไรหรือ คำว่า “สม่ำเสมอ” เป็นคำที่ไม่ค่อยจะชัดเจนเสียเท่าไรในความคิดของเราทั้งสองคน ไม่ชัดเจนเสียจนทำให้เราทั้งคู่มีปัญหาชีวิตอย่างไม่คาดคิด (แม้จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตนักแต่มันก็น่าจะทำให้ชัดเจนกว่านี้ได้ไม่ยาก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว)
ถ้าใครได้อ่านตั้งแต่ตอนแรก “ท้องก่อนแต่งกันดีมั้ย” คงจำได้ว่าเรามีความคิดที่จะมีลูกในทันที ด้วยเหตุผลหลาย ๆ ประการ เมื่อเราแต่งงานกันไปประมาณครึ่งปี ปัญหาดังกล่าวก็เริ่มขึ้น “เราสม่ำเสมอพอหรือยัง” ด้วยวัยที่แตกต่างกันของเราทั้งสองคน สม่ำเสมอ ของน้องรี่อาจจะเป็นสวรรค์ฝันหวานของหนุ่ม ๆ หลายคน แต่ด้วยวัยของพี่อาร์มนั้นอาจจะไม่เป็นงานที่ง่ายมากนัก พี่อาร์มด้วยความเป็นนักวิทยาศาสตร์ จึงงัดเอาความรู้ชีววิทยา ม.4 เข้ามาสู้ วงจรการตกไข่ของผู้หญิงจะค่อนข้างสม่ำเสมอประมาณ 28 วัน ดังนั้นถ้านับวันแรกที่มีประจำเดือนเป็นวันที่หนึ่งครึ่งหนึ่งของวงจรคือวันที่สิบสี่ควรจะเป็นวันที่ไข่ตก ถ้าไม่อยากให้ท้องถ้ามีเพศสัมพันธ์กันในวันที่ยี่สิบเอ็ดเป็นต้นไปจนกระทั่งถึงวันที่เจ็ดของรอบต่อไปก็ควรที่จะปลอดภัยแม้ว่าจะรวมอายุของไข่หรืออายุของอสุจิเข้าด้วยกันไปแล้ว ในทางกลับกันแม้ว่าครูจะไม่ได้สอน เราก็คิดง่าย ๆ ว่าถ้าหน้าเจ็ดหลังเจ็ดทำให้ไม่ท้อง ในช่วงวันที่แปดถึงวันที่ยี่สิบสองจึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราควรทำการบ้าน
นี่เป็นความจริงที่จะวางให้น้องรี่ได้เข้าใจ แต่บางครั้งเรื่องราวมันไม่ง่ายอย่างนั้น น้องรี่มีประจำเดือนที่ไม่มาเป็นประจำทุก ๆ เดือน ด้วยความถี่เรียกได้ว่าเจ้าของลอริเอะได้ยินแล้วคงต้องร้องไห้ น้องรี่มีประจำเดือนประมาณปีละ 2-3 ครั้ง น้อยจนเราอยากจะเรียกมันว่าประจำปีเสียดีกว่า คราวนี้เราจะเล็งวันตกไข่ตอนไหนดีล่ะ ยากมาก พี่อาร์มคิด พี่อาร์มจึงคิดว่าต้องมีตัวช่วยเสียแล้ว ภายหลังค้นหาสักพักพี่อาร์มก็ไปเจอโปรแกรมฟรีอยู่ตัวหนึ่ง ชื่อว่า period calculator โดยตัวโปรแกรมให้เราบันทึกวันที่มีประจำเดือนวันแรกจนถึงวันสุดท้ายเมื่อบันทึกในเดือนที่สองโปรแกรมจะเริ่มคำนวณวันตกไข่ให้ ในขณะเดียวกันเราเริ่มให้โปรแกรมที่เราเรียกเองว่าฮอร์โมนบำบัดคือให้น้องรี่กินยาคุมกำเนิด เราคุมอย่างนี้เป็นระยะเวลาสามเดือน แล้วหยุดยาคุมกำเนิดและบันทึกข้อมูลโดยละเอียด ภายหลังเลิกยาคุม ประจำเดือนน้องรี่เริ่มมาเป็นประจำคือประมาณ 30-40 วันต่อรอบ โปรแกรมที่พี่อาร์มใช้เริ่มสามารถคำนวณวันตกไข่ได้ แล้วเราก็ทำการบ้านได้อย่างมีเป้าหมายมากขึ้น
หนึ่งเดือนผ่านไป กับที่ตรวจครรภ์อันแรก เดือนถัดมากับที่ตรวจครรภ์อันที่สอง เมื่อเริ่มใช้ที่ตรวจครรภ์อันที่สามเราก็เริ่มมีปัญหากันขึ้น น้องเชอร์รี่อารมณ์เสียมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อผ่านอันที่สองและเมื่ออันที่สามยังเห็นขีดเดียวน้องรี่เริ่มร้องไห้ การบ้านที่ทำอย่างมีความหวังกลายเป็นหน้าที่ที่ขมขื่นขึ้นทุกวัน และหลายครั้งที่น้องรี่สาบาญว่าจะไม่มีลูกกันอีกแล้ว ก่อนที่จะสายเกินไปพี่อาร์มต้องหาวิธีที่จะทำให้น้องรี่มีกำลังใจมากขึ้น
ด้วยความที่รู้ว่าน้องรี่ให้ความเชื่อใจหมอเป็นอย่างมาก พี่อาร์มงัดหมัดเด็ดขึ้นมา ในขณะที่กำลังพาน้องรี่ไปกินฟูจิ “โอเค ไม่ต้องมีลูกกันแล้วก็ได้ แต่ลองปรึกษาหมอดูก่อนมั้ย พี่อาร์มรู้จักหมอสูติอยู่บ้างนะ” ด้วยความเอร็ดอร่อยกับซูชิปลาแซลมอนของโปรดน้องรี่เอออออย่างขอไปที ทันใดนั้นพี่อาร์มยกหูโทรศัพท์โทรไปหาเพื่อนหมออย่างไม่รีรอ ปล่อยให้น้องรี่มองตาค้างอยู่อย่างนั้น “โหล ๆ แป๊ะ นี่อาร์มนะ ถามหน่อยดิ” “เออ ว่าไงอาร์ม” หมอแป๊ะตอบ “เฮ้ย ปีนึงแล้ว มแร่ง ยังไม่ติด นี่ผิดปกติป่าววะ” “แล้วนายทำการบ้านบ้างป่าวล่ะ” หมอแป๊ะย้อน “เฮ้ย น้องเค้าสะกิดทุกคืนเลยนะโว้ย บ่อยกว่านี้เราหน้าเขียวแน่ ๆ ว่ะ” พี่อาร์มยืนยัน “เฮ้ย นั่นมันมากไป นายต้องผลิตอสุจิด้วยดิ เอางี้ นายกลับไปทำอย่างนี้นะ ถ้าไม่เวอร์ค อีกสามเดือนนายค่อยมาหาเรา แต่เราว่าไม่มีอะไรหรอก” “เออ ว่าไงล่ะ” พี่อาร์มตอบอย่างมีความหวัง “ก็นายทำการบ้านสามวันครั้งนะอย่าบ่อยอย่าน้อยไปกว่านั้น แล้วถ้าพอจะประมาณวันตกไข่ได้ นายจำได้ใช่มั้ย ก็ก่อนตกไข่สองวัน วันตกไข่ และหลังตกไข่สองวัน ให้ทำการบ้านพิเศษอีกหน่อย รับรองไม่พลาด แฟนเราก็มียากเหมือนกัน วิธีนี้ เรียบร้อย มีไปแล้วสอง” หมอแป๊ะให้ยาขนานแรก พร้อมรับรองสรรพคุณ “เหรอ ๆ เออ ดี ดี ขอบคุณนะแป๊ะ” พี่อาร์มตอบด้วยความดีใจ แล้วจึงมาเล่าให้รี่ฟัง คืนนั้นเรากลับบ้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม คืนนั้นความสุขกลับมาในห้องนอนเราอีกครั้ง
Feb 23, 2009
“ลูกทั้งสองคนดูปกติดีนะ แต่เราคงต้องมาซาวด์กันบ่อย ๆ หน่อย วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน” คุณหมอพูด กว่าจะมาถึงคำพูดนี้ของหมอ เราผ่านอะไรที่ไม่อยากจะคาดฝันมามากจนคำพูดเหล่านี้แทบจะไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อจิตใจเราอีกเลย ใครเลยจะคาดคิดว่าละครหลังข่าวจะมีเค้าโครงความเป็นจริง เอ หรือว่าความเป็นจริงถูกกำหนดด้วยละครหลังข่าวกันแน่ เราสองคนเริ่มมีความหวังมากขึ้นเมื่อคุณหมอแป๊ะได้ให้ใบสั่งการบ้าน สามวันครั้งมาทำเป็นเวลาสามเดือน เราได้แต่คิดว่าที่เราพยายามทำกันทุกวันนั้นมันผิดทฤษฏี คราวนี้โดนแน่ ๆ เมื่อใบสั่งออกมาแล้ว การตรวจครรภ์แล้วพบว่าไม่สำเร็จนั้น ส่งผลทางจิตใจอย่างใหญ่หลวง ภาพหนูนาร้องไห้ ในละครอุ้มรัก มาหลอนให้เห็น และเป็นเช่นนั้นไปตลอดทั้งสามเดือน
ในที่สุด “เออ อาทิตย์หน้ามาหาเราหน่อยสิ ว่างรึเปล่า” หมอแป๊ะนัดเพื่อจะให้ไปฉีดสี และตรวจน้ำเชื้อ ความหวังเราเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อคิดว่าจะได้รู้เสียทีว่าทำไม โดยทางเทคนิคแล้วถ้าหากว่าผู้หญิงแข็งแรงดี และผู้ชายมีปัญหาเรื่องน้ำเชื้อจะแก้ไขได้ไม่อยากนัก เพราะการคัดน้ำเชื้อทำได้ง่าย และราคาถูก ไม่เหมือนกับว่าถ้าหากความผิดปกติเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ของหญิงแล้วนั้นเรื่องราวจะยุ่งเหยิงมากกว่า น้องรี่เริ่มล้อพี่อาร์มแล้ว “แก่แล้ว มีน้ำยาหรือเปล่าเนี่ย” พี่อาร์มไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะคิดว่าภาวะที่น้องรี่ไม่ค่อยมีประจำเดือนเลยนั้นน่าจะเป็นสาเหตุหลัก แม้ว่าน้องรี่จะยืนยันมาเป็นกันทั้งครอบครัว แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร
และเมื่อวันนั้นมาถึง ที่ห้องเก็บน้ำเชื้อ “เฮ้ย เราออกแบบเองเลยนะโว้ย ห้องนี้น่ะ” หมอแป๊ะโว ห้องเก็บน้ำเชื้อของโรงพยาบาลรัฐ เนี่ยสงสัยคงต้องตั้งชื้อใหม่เสียแล้ว เพราะเก็บอย่างเดียวคงไม่พอ มันออกแนวต้องคาดคั้นกันเยอะมาก ห้องอย่างว่านี้เป็นห้องเล็ก ๆ มีห้องน้ำในตัว ออกแนวห้องเก็บของ ๆ ภารโรงโรงเรียนเอกชนได้มั้ง ในห้องมีพัดลมตัวเล็ก ๆ พร้อมทั้งทีวี 14 นิ้วและเครื่องเล่นวีซีดี และแผ่นหนังอย่างว่า มีชาติใดบ้างไม่อาจจะรู้ได้เพราะไม่ได้ค้นดู ในมุมอับนั้นก็จะมีเก้าอี้โซฟาราคาถูกตั้งอยู่ รอคอยผู้ใช้บริการ สภาพดังกล่าวมันลำบากเสียจริง ๆ “เฮ้อ ถ้าเชื้อออกมาไม่เต็มที่ ก็คงต้องโทษบรรยากาศล่ะวะ” พี่อาร์มคิดในใจ
ในที่สุดเมื่อได้น้ำเชื้อมาแล้ว ก็ส่งไปวิเคราะห์ เราก็เข้าไปดูกะเขาด้วย ผลน่ะเหรอครับ “มากกว่า 100ล้านตัวต่อซีซี” นักวิทยาศาสตร์พึมพัมก่อนบอกต่อว่าหลังจากนี้ก็ไม่นับแล้ว ระดับปกติเนี่ยอยู่ที่ 30 ล้านเท่านั้นเองครับ พี่อาร์มเริ่มยิ้มได้ เกรดเอมากกว่า 90 เปอร์เซนต์เลยนะเนี่ย นักวิทยาศาสตร์ชม พี่อาร์มเริ่มเขิน น้องรี่ขอดูบ้าง พร้อมอุทานอย่างมีความสุข “โหย ดูซิลูก ๆ ว่ายกันเยอะไปหมดเลย” เป็นอันว่าพี่อาร์มผ่านแบบไม่เห็นฝุ่น ถ้าหากว่ามีปัญหานั้น อาจจะเป็นไปได้ว่าความเข้มข้นของอสุจิมีน้อย หรือ อสุจิเกรดเอ คือตัวสมบูรณ์ หางแข็งแรง และว่ายเร็ว มีสัดส่วนที่น้อยเกินไป เป็นต้น
คราวนี้ก็ถึงตาน้องเชอร์รี่บ้าง ฉีดสี เป็นคำที่หมอแป๊ะเรียก คือการที่ฉีดของเหลวเข้าไปในโพรงมดลูก พร้อมทั้งถ่ายภาพเอกซ์เรย์ โดยของเหลวที่ฉีดเข้าไปจะมองเห็นได้บนเครื่องเอกซ์เรย์ การฉีดสีนั้นจะทำให้พบว่ามีสภาวะผิดปกติใด ๆ ในโพรงมดลูกหรือท่อนำไข่บ้างหรือไม่ บางครั้งการฉีดสีอาจทำให้ทำนำไข่ที่เคยอุดตัน หายอุดตัน และการมีลูกก็เกิดขึ้นได้ในทันที นี่คือสิ่งที่หมอแป๊ะคาดเดา เพราะมีหลายรายเลยทีเดียวที่ท้องได้หลังจากแค่การฉีดสีเท่านั้น
“อาร์ม มาคุยกันหน่อยสิ” หมอแป๊ะเริ่มเล่นบทหมอ พี่อาร์มเริ่มวิตกกังวลเพราะขั้นตอนฉีดสีนี้ พี่อาร์มไม่ได้เข้าไปดูด้วย น้องรี่ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรมากนัก “มดลูกของเชอร์รี่มีปัญหานิดหน่อยนะ คือปกติแล้วเวลาฉีดสีแล้วเราจะเห็นโพรงมดลูกและท่อนำไข่เป็นเหมือนเขาสองข้าง แต่น้องรี่ ภายในโพรงมดลูกมันถูกแบ่งเป็นสองด้าน ซึ่งเป็นไปได้สองกรณีคือ Septate Uterous หรือ Biconuate Uterous ซึ่งทั้งสองวิธีแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด” เอาแล้วล่ะซิพี่อาร์มคิด
Septate Uterous นั้นคือภาวะที่มดลูกเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ พังผืด ระหว่างกลางมดลูกยังคงอยู่ และทำให้การฝังตัวของเด็กเป็นไปไม่ได้ ส่วน Biconuate Uterous นั้น การเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ยิ่งกว่า มดลูกยังแบ่งออกเป็นสองข้างอยู่อย่างชัดเจน ซึ่งวิธีเดียวที่จะรู้ได้ว่าเป็นอะไรคือการเจาะท้องส่องกล้องเข้าไปดูภายในช่องท้อง ถ้าหากว่าเป็นมดลูกสองอัน ก็ปล่อยไว้อย่างนั้น เพราะจะท้องได้ ที่มดลูกอันใดอันหนึ่ง แต่ถ้าเป็น Septate ก็จะต้องจี้ออกผ่านทางช่องคลอด
“เรา ultrasound ดูแล้ว เราคาดว่าน่าจะเป็น Biconuate นะ แต่ฟันธงไม่ได้จนส่องกล้องเข้าไปจริง ๆ” หมอว่า แต่คำถามคือว่าถ้าเป็นมดลูกสองอันน่าจะท้องได้เองแล้ว แต่ไม่แน่ว่าอาจมีภาวะไม่ตกไข่ร่วมด้วยเพราะน้องรี่ไม่ค่อยมีประจำเดือน “ถ้าเป็น Septate ก็จะลำบากหน่อยนะ เพราะผ่าตัดแล้วต้องรีบมีลูกในทันที เพราะพังผืดอาจจะขึ้นกลับมาอีก แล้วก็เราไม่มีทางรู้ว่าผนังมดลูกนั้นจริง ๆ แล้วพร้อมที่จะให้เด็กฝังตัวได้หรือไม่ ก็พยายามหวังให้เป็น Biconuate ก็แล้วกันนะ มานัดว้นผ่าเลยดีกว่า”
29 เมษายน 2550 เป็นวันที่เรานัดกันมาผ่า หมอเขียนคำ diagnose ว่า Female Infertile คำนี้เป็นคำรุนแรงที่บ่งบอกว่าโรคดังกล่าวไม่สามารถใช้เบิกประกันได้เลย เมื่อได้วันนัดแล้ว เราก็กลับบ้านกันไป ด้วยความหวัง ในที่สุดเราก็รู้ปัญหาแล้ว เมื่อซ่อมเสร็จเรื่องราวก็คงจะจบ เมื่อความเครียดหายไป การบ้าน ก็ไม่กลายเป็นหน้าที่อีกต่อไป ตรวจครรภ์ไม่เคยอยู่ในความคิดอีกต่อไป เพียงแต่รอเวลาเท่านั้น
Mar 3, 2009
การได้รับการวินิจฉัยจากหมอว่าไม่รู้ว่าเป็นอะไรนั้น บางครั้งก็ทำให้หัวมึน ๆ อยู่เหมือนกัน ภาวะที่น้องเชอร์รี่ประสบนั้นคือเมื่อมีการฉีดสีเข้าโพรงมดลูก (แล้ว x-rays ดู) ทำให้เห็นโพรงมดลูกแบ่งเป็นสองซีก เมื่อทำการอัลตราซาวด์เพิ่มเติมทำให้มีแนวโน้มที่จะเชื่อว่าเป็นภาวะ bicornuate uterous (มดลูกสองอัน) เพราะดูจากภาพแล้วมดลูกทั้งสองซีกยาวไม่เท่ากัน ซีกหนึ่งยาว 5 ซม. และอีกซีกหนึ่งยาว 3 ซม. หมอแป๊ะบอกว่าจากรูปน่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ไม่สามารถฟันธงได้มีกรณีเดียวคือผ่าตัดส่องกล้องซึ่งจะเจาะท้องน้องรี่แล้วเอากล้องเข้าไปดูเพื่อจะได้เห็นว่าจริง ๆ แล้วมีมดลูกกี่อัน ถ้าเห็นสองก็เป็นสองแต่ถ้าเห็นอันเดียวก็แปลว่า เป็นที่เรียกว่า Septate Uterous คือมีเยื่อกั้นอยู่ภายในมดลูก ในกรณีนั้นต้องจึ้เอาเยื่อผังพืดเหล่านั้นออกจึงจะสามารถมีบุตรได้
ทีนี้ล่ะ ในใจเราอยากให้เป็นกรณีไหน Septate Uterous จะต้องผ่าเพิ่มเติม เสียเงินเพิ่มนิดหน่อย แต่ Bicornuate นั้น ไม่ต้องทำิำอะไร จะสามารถท้องได้ตามปกติ แต่ complication ก็ขึ้นอยู่กับว่าเด็กจะไปฝังตัวด้านไหน ถ้าด้านเล็ก อาจจะมีปัญหาคลอดก่อนกำหนด แต่โดยปกติแล้ว Bicornuate นั้นเป็นภาวะการพัฒนาที่ผิดปกติของมดลูกซึ่งส่งผลให้มีอัตราการแท้งของเด็กค่อนข้างสูงกว่าปกติ ส่วน Septate Uterous ก็ต้องมีการผ่าตัดออก ซึ่งไม่แน่ชัดว่าผนังมดลูกภายในมีความพร้อมที่จะรับเด็กได้หรือไม่ และผังพืดมักจะสามารถกลับขึ้นมาได้ ในระยะเวลาประมาณ 1 ปี คือเมื่อซ่อมอู่แล้วต้องรีบมีลูก
ในใจเราอยากให้เป็น Bicornuate เพราะจะมีปัญหาเรื่องตั้งท้องได้น้อยกว่า แต่สำหรับพี่อาร์มเองคิดว่าถ้าเป็น Septate น่าจะดีกว่าเพราะในกรณี Bicornuate นั้น เราจะมีคำถามตามมาว่าแล้วทำไมไม่ท้องทั้ง ๆ ที่ควรจะท้องได้ตามธรรมชาติ
ในวันที่วินิจฉัยนั้น หมอแป๊ะก็ถือโอกาส prep น้องรี่สำหรับการผ่าตัดทันที ทำการ x-ray ตรวจเลือด และนัดวันผ่าตัด ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า จำวันไม่ค่อยได้แล้ว แต่วันที่ผ่าตัดนั้นนัดเป็นวันที่ 29 เมษายน 2550 เราคุยกันว่าในการผ่าตัดนั้น ก็จะให้ยาสลบ หมอจะเจาะหน้าท้องน้องรี่สามรูเล็ก ๆ 1 รูสำหรับใส่กล้อง แล้วก็อีกสองรูใส่เครื่องมือที่จริง ๆ แล้วคงทำหน้าที่คล้ายตะเกีียบคอยเขี่ย ๆ อวัยวะให้ไปตามที่ต้องการ ถ้าหากว่าเห็นว่าเป็น มดลูกสองอัน ก็จะจบไม่ต้องทำอะไร แต่ถ้าเป็นมดลูกอันเดียวแสดงว่าในมดลูกมีผังพืด เราก็จะผ่าจี้เอาผังพืดออกผ่านทางช่องคลอด ก็เป็นการใช้ส่องกล้องผ่าอีกเช่นเดียวกัน มีค่าใช้จ่ายเิพิ่มอีกนิดหน่อย หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลก็นำเราเข้าไป brief อีกครั้งเพื่อความเข้าใจ
มดลูกสองอัน หรือมดลูกหนึ่งอัน ระหว่างสามเดือนที่เราต้องรอผ่า เราก็คิดกลับไปกลับมาว่าเราอยากให้มันเป็นอย่างไร ถ้าเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งจะเป็นอย่างไร แล้วจะท้องได้อย่างไร แล้วทำไมถึงไม่เคยท้องต่าง ๆ นา ๆ หมอสั่งว่าระหว่างนี้ทำการบ้านกันตามปกติ ถ้าหากว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นก็ยกเลิกการผ่าตัด ว่าแล้วหมอก็นัดเข้ามารับยาก่อนผ่าตัดล่วงหน้าประมาณสัปดาห์หนึ่ง ซึ่งเป็นยาขยายปากมดลูก ในกรณีที่คนไข้มีการศึกษาอย่างเราทั้งคู่ทางโรงพยาบาลก็จะลด strain ของโรงพยาบาลโดยให้เรา prep คนไข้เพื่อเข้ามาผ่าตัดเอง เริ่มต้นด้วยการอดอาหาร การเตรียมยาขยายปากมดลูก และกลับบ้านทันที่ที่ผ่าตัดเรียบร้อย เมื่อเป็นเช่นนี้ โรงพยาบาลก็ไม่เสียห้องพัก คนไข้ก็ได้พักที่บ้านซึ่งส่วนใหญ่ก็ชอบมากกว่าอยู่แล้ว เราก็ว่าเป็นแนวทางที่ดี
ท้ายที่สุด การได้รับรู้บางส่วนว่าระบบสืบพันธ์ของน้องรี่มีปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ก็เป็นความรู้สึกที่ดี ความหวังที่จะมีบุตรนั้นอยู่ไม่ไกล หมอแป๊ะบอกทันทีว่า พอผ่าเสร็จจะโอนเคสให้หมอมีบุตรยากในทันที เพื่อรักษาต่อไป เพราะอย่างน้อยน้องรี่ยังมีอีกอาการที่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุคือ chronic anovulation คือไม่ตกไข่ อาการน่ะหรือ ก็ง่าย ๆ น้องรี่มีเมนส์ปีละ 2-3 ครั้งเท่านั้น ใช่ครับ 2-3 ครั้งต่อปี ส่วนใหญ่เกิดจากระบบฮอโมนส์ คนไทยเป็นกันมากเพราะตัวเล็กผอม คนที่อ้วนมาก หรือผอมมากก็อาจจะมีอาการนี้ไม่มากก็น้อย ที่เหลือจากนี้เราก็รอ