วันนี้ผมได้มีโอกาสคุยกับกลุ่มนักไตรกีฬาชั้นนำของประเทศที่เรียกตัวเองว่า Seal Tri Team ที่มีประสบการณ์แข่งรายการ Ironman มาแล้วทั่วโลกนับเป็นสิบครั้ง โดยที่ผมเองนั้นยังไม่เคยมีประสบการณ์ในระยะนี้แม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยแม้กระทั่งเดินทางออกไปแข่งขันในต่างประเทศ เมื่อทางกลุ่มได้พูดคุยถามความเห็นถึงประสบการณ์และความประทับใจในการแข่งไตรกีฬา โดยถามว่ารายการไหนที่ดีและน่าประทับใจ ทั้งในและต่างประเทศ ผมซึ่งเล่นกีฬานี้มานานแสนนานจึงถือโอกาสแชร์ความคิดเห็นลงไปบ้าง
ผมมองอย่างนี้นะครับ จากประสบการณ์ท่องเที่ยวไตรฯ มาตั้งแต่ปี 36 ก่อนที่ NBC จะสร้าง Drama ให้คำว่า Ironman ดูยิ่งใหญ่เกินความเป็นมนุษย์ มันเหมือนการท่องเที่ยวในที่ต่างๆครับ แต่ละรายการมีจุดเด่นจุดด้อยต่างๆกันไป และให้อะไรที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะถ้าจัดโดย local authority งานที่จัดโดย frainschaise มันก็ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าร้านอาหาร chain เมื่อไปเที่ยวนั่นแหละครับ คนส่วนใหญ่ชอบอะไรที่คุ้นเคยและคาดเดาง่าย chain จึงเป็นที่นิยม ความมีมาตรฐานและธุรกิจทำให้การจัดการออกจะดูดีกว่า ง่ายกว่าที่จะได้รับความประทับใจโดยเฉพาะถ้าลงทุนเยอะๆไม่มีใครอยากเสี่ยงกับรายการ local ยิ่งถ้าเดินทางไกลๆ ก็ยิ่งต้องทำให้คุ้ม สังเกตุตัวเองได้ครับว่าเวลาไปเที่ยวต่างประเทศเรามองหาอาหารไทย แมคโดนัล สตาร์บัค หรือเสี่ยงกับร้านที่อ่านชื่อไม่ออก อ่านเมนูไม่ได้แล้วก็คุยกันไม่รู้เรื่อง เท่านี้คุณก็จะเลือกรายการที่เหมาะกับคุณได้ครับ และทุกรายการเมื่อกลับไปอีกครั้งคุณก็จะรำลึกถึงบรรยากาศเก่าๆ โค้งที่จำได้ เขาที่เคยเข็น ไม่ว่าใครจะเป็นคนจัด รายการคุณจะติดยี่ห้อหรือไม่ ในใจคุณเท่านั้นครับที่จะติดกลับไป ผมพบว่าสิ่งที่ดีและน่าจดจำที่สุดเป็นประสบการณ์ร่วมกับเพื่อนๆ ครอบครัวครับที่จะทำให้รายการนั้นน่าประทับใจ ซึ่งผมมีเยอะมาก ไม่ได้เกี่ยวกับการแข่งเสียเท่าไร ไม่ว่าจะเรียก มนุษย์เตารีด หรือ จอมท้าทาย แต่สุดท้ายเราคือนักไตรกีฬาครับ
ปรากฏว่าเมนท์นี้ให้สร้างมุมมองให้กับกลุ่มได้พอสมควร ก็เลยคิดว่าจะมาถ่ายทอดประสบการณ์เหล่านี้ออกมาเสียหน่อย ผมเริ่มเล่นกีฬาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ด้วยฝีมือระดับกระจอกจึงไม่ได้มีโอกาสได้เดินทางไปแข่งขันที่ไหนเลย มาจนเข้ามหาลัย มาเริ่มวิ่งเพื่อสุขภาพ การเดินทางเพื่อแข่งขันผมจึงเริ่มขึ้น เนื่องจากผมไม่เคยคิดที่จะชนะใคร การเข้าร่วม การเตรียมตัวในการซ้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญของผม เป็นหัวใจของการออกกำลังกายของผม ในขณะที่การแข่งขันนั้นเป็นเสมือนการท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่าง ๆ สร้างสมประสบการณ์ ทั้งผ่านชีวิต ทั้งภายในจิตใจของผมเอง ด้วยเหตุนี้การแข่งขันในแต่ละครั้งจึงมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่จะทำให้ผมจดจำประทับใจ แม้ว่าเวลาจะผ่านมาแล้วหลายสิบปีก็ตาม ผมเริ่มแข่งทวิกีฬาครั้งแรกในรายการราบสิบเอ็ดทวิกีฬา ครั้งที่ 1 ซึ่งผมต้องเดินทางปั่นจักรยานจากคลองสานมาขึ้นรถไฟที่หัวลำโพงไปลงที่หลักสี่แล้วจึงปั่นไปแข่ง จนถึงทุกวันนี้หลักสี่ในความทรงจำของผมเป็นเรื่องนี้เสมอ ผมกลับไปแข่งทุกปีจนถึงครั้งที่ 3 รองเท้าจักรยานคู่แรกผมซื้อที่งานนี้ แอโร่บาร์อันแรกผมปั่นในงานนี้ จักรยานสองคันแรกของผมใช้แข่งในรายการนี้เป็นรายการแรก เรียกได้่ว่าผมโตมาจากรายการนี้เลยทีเดียว
ผมมีโอกาสแข่งไตรกีฬาครั้งแรก เป็นไตรกีฬาวิบาก ใช้เสือภูเขาในการแข่งขัน แข่งที่จันทบุรี ผมต้องนั่งรถไฟจากปัตตานีไปลงกรุงเทพ ระหว่างทางนั่งตรงข้ามกับคนแปลกหน้าที่กลายมาเป็นเพื่อนกันจนทุกวันนี้ ผมต้องปั่นไปเอกมัยเพื่อนั่งรถทัวร์ไปลงปากทางเข้าอ่างเก็บน้ำ แล้วจ้างรถมอเตอร์ไซด์แบกจักรยานเข้าไปที่สถานที่แข่งขันก่อนผมจะพบว่าที่พักบนแพที่เขาจัดให้มีไม่เพียงพอ สุดท้ายผมต้องพักกับกำนัน ที่ลูกสาวมาเป็นอาสาสมัครพยาบาลในการแข่งขันนี้ ความทรงจำของการแข่งขันของผม ความประทับใจล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องราวแวดล้อม มีน้อยนักที่จะเกี่ยวกับการแข่งขันโดยตรง ในช่วงแรกของชีวิตนักกีฬาของผมเป็นช่วงชีวิตนักศึกษา ป.ตรี จึงเป็นความทรงจำเกี่ยวกันความดันทุรังในการเดินทาง ความไม่พร้อมเรื่องงบประมาณที่พัก เป็นเสียส่วนใหญ่ แต่สถิติที่ดีที่สุดในชีวิตของผมก็อยู่ในช่วงนั้น
ผมเดินทางไปศึกษาต่อในอเมริกาภายหลังเรียนจบไม่นาน ชีวิตนักกีฬาของผมเริ่มด้วยการโพสหาเพื่อนซ้อมผ่านอินเตอร์เนต แน่นอนว่าผมอยู่ในกลุ่มคนแรก ๆ ที่ใช้ประโยชน์อินเตอเนตในชีวิตประจำวัน ซึ่งรวมไปถึงการหาเพื่อนร่วมซ้อมไตรกีฬานี่ด้วยเช่นกัน ผมได้พบกับเพื่อนนักกฏหมายชาวอเมริกันวัยประมาณห้าสิบหรือย่างห้าสิบผมไม่ค่อยแน่ใจแต่ลูก ๆ เขาอยู่ประมาณ ม.ปลาย เขาพาผมไปปั่นซ้อมใน national park พาไปว่ายน้ำ open water ใน Lake Erie ผมจำได้ว่าผมมีคู่หูซ้อมว่ายน้ำเป็นเพื่อนนักเรียนชาวมาเลเซีย ซึ่งเราก็ออกไปว่าย open water ด้วยกัน ผมยังจำหน้าตาของคนตกปลาที่มองผมเป็นตัวประหลาดที่โผล่มาจากที่ไหนไม่รู้ ราวกับว่าผมว่ายข้ามมาจาก Canada เพราะทะเลสาบที่ผมไปว่ายนั้นเชื่อมติดกับ Canada นั่นเอง จำความตื่นเต้นระทึกใจเมื่อต้องรอเพื่อนชาวมาเลเซียที่ว่ายน้ำไม่แข็งนัก ไม่ยอมโผล่มาจากน้ำเสียที จนผมกลัวจะต้องเป็นคนโทรไปบอกแม่เขาว่าผมเป็นคนสุดท้ายที่เห็นเขา และเพื่อนนักกฏหมายคนนี้เองที่พาผมเข้าไปรู้จักบรรยากาศของการแข่งขันไตรกีฬาแบบที่ควรจะเป็นในรายการแรกของฤดู เป็นรายการชิงแชมป์ของพื้นที่บริเวณนั้น เราขับรถจาก Cleveland, Ohio ไปแข่งกันที่ Edinboro, Pennsilvania ผมเปิดซิง Wetsuit QR ของผมเป็นครั้งแรก เดือน พค. แม้ว่าอากาศจะไม่หนาวแล้วแต่น้ำยังอยู่ประมาณ 10-15C ซึ่งทำให้หัวชาได้เลยีเดียว งานแข่งในอเมริกามีบ่อยมาก ในพื้นที่ใกล้เคียงระดับขับรถไม่เกินสองชั่วโมง (ไม่ต้องไปค้างคืน) มีให้แข่งแทบทุกสัปดาห์ไปจนถึงปลาย ฤดูกาลคือเดือนสิงหาคม
ผมจัดการแข่งขันให้ตัวเองแทบทุกสัปดาห์ สลับกันไปไตรกีฬา ทวิกีฬา เสือภูเขา ตลอด 7 ปีที่อยู่ที่นั่นผมจึงมีโอกาสแข่งขันมากมาย ในช่วงการใช้ชีวิตแข่งขันที่อเมริกานั้นส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวของการสร้างมิตรภาพ ผมค่อย ๆ ฝึกเพื่อนชาวมาเลย์จากว่ายน้ำได้ไม่เกินร้อยเมตรให้ไปว่าย open water ระยะทางเป็นกิโลกับผม ในการแข่งขันรายการ Edinboro ปีถัดไปผมชวนรุ่นน้องที่มาเพิ่งเดินทางมาไปชมการแข่งขัน พ่วงกับไปเที่ยวต่างรัฐด้วยกัน หลังจากกลับมาเพียง 1 สัปดาห์น้องเขาก็ซื้อจักรยาน ก่อนที่จะกลับมารับตำแหน่งผู้ช่วยอธิการบดีที่ผลักดันระบบเส้นทางจักรยานในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุด ผมไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องอะไรกับการเดินทางครั้งนี้หรือไม่ แต่ผมคิดว่าการเดินทางครั้งนี้ส่งผลกับความคิดกับเขาพอสมควร การกลับไปแข่งขันที่ Edinboro ทุก ๆ ปีของผม มีความหมายมาก ๆ สำหรับการเริ่มต้นฤดูกาล เริ่มจากปีแรกที่เพื่อนนักกฏหมายได้พาผมไปพบกับบรรยากาศที่เรียกว่า pasta party งานไตรกีฬาที่ใหญ่เพียงพอระดับหนึ่งจะมีงาน pasta party ที่อาหารทุกอย่างจะฟรี (รวมอยู่ในค่าสมัคร) ซึ่งอาหารจะเรียบง่ายคือ pasta จำนวนมหาศาล มีให้กินจนไม่รู้จักหมด (ไม่มีอย่างอื่นให้กินครับ) บรรยากาศแห่งความเป็นมิตรที่ทุกคนจะทักทายกันราวกับว่ารู้จักกันมาก่อน ไถ่ถามกันว่ามาจากที่ใด เราอาจจะได้คุยกับแชมป์ปีที่แล้ว หรือคนที่กำลังจะเป็นแชมป์ เพราะในยุคนั้นคนเล่นไตรกีฬา ถือว่าเป็นกลุ่มคนประหลาดที่มีอยู่ไม่มากนัก เราจึงรู้สึกเป็นเพื่อนกันในทันทีที่ได้เจอกัน การกลับมาในทุก ๆ ปี จะเป็นตัวบ่งบอกความฟิตของผมในฤดูกาลนั้น ๆ บอกว่าในฤดูหนาวที่ผ่านมา ผมเตรียมตัวมาดีแค่ไหน เขาที่ยังจำได้ โค้งที่ประทับใจ ทำให้การปั่นสนามเดิม ๆ มีความหมายมากขึ้นทุก ๆ ปี ไม่รวมการพ่วงเที่ยวพิตสเบิร์ก หรือ Falling water ตามแต่ที่อยากจะไปก็ทำให้การเดินทางสนุกยิ่งขึ้น
รายการอื่น ๆ ของปี ผมจะอยู่ในละแวกใกล้เคียง คือ Akron, Columbus, Cleveland และเมืองใกล้ ๆ บางครั้งผมเดินทางไปค้างคืนล่วงหน้าหนึ่งคืน เพื่อร่วมงาน pasta party เที่ยวเมืองเล็ก ๆ ข้าง ๆ เยี่ยมเพื่อนบ้างไรบ้าง หลาย ๆ ครั้ง ไปพักกับเพื่อนสนิทของผม โด่ง ที่เรียนอยู่ที่ Kent, Ohio ก่อนที่จะย้ายไปทำงานที่ Columbus, Ohio หลาย ๆ ครั้งที่ผมไปพักกับเขา ทำให้เขาตัดสินใจมาร่วมกับผมในหลายการแข่งขัน ตั้งแต่การซื้อจักรยานเสือภูเขาคันแรก ผมพาเขาไปเปิดที่สนาม single track ที่ technical ที่สุดในพื้นที่ Ohio เรียกว่า Vulture Knob ผมผ่านการแข่งขันที่สนามนี้หลายครั้ง ลงเขาแรก โด่งก็หัวทิ่ม คิ้วแตก ยังไม่ทันได้ปั่นไปไหนเลย หลังจากนั้นผมจึงพาเขาไปสนามอื่น ๆ ที่ง่ายกว่า ผมเริ่มสร้างแกงค์จักรยานขึ้นในเมือง มีหลาย ๆ คนซื้อเสือภูเขาคันแรก ด้วยความช่วยเหลือของผม เสือหมอบคันแรก หรือคันที่สองด้วยความช่วยเหลือของผม ผมเป็นสมาชิกชมรมจักรยานคนแรก ๆ ของมหาลัย เพราะผมเคยเป็นหัวลากให้ประธานชมรมคนแรกมาก่อน สมัยที่เขาอยู่ปี 1 ผมได้ไปช่วยสร้าง single track ของมหาลัยเส้นทางแรก
งานที่ผมประทับใจอีกงานหนึ่งที่ผมไปทุกปีชื่อว่า Wendy’s International Triathlon ซึ่งผมพาเพื่อน ๆ ผมไปลงแข่งขันทวิกีฬาเป็นครั้งแรก โด่ง จบครั้งแรกด้วย DNF ส่วนพี่หนุ่มที่มีประสบการณ์มากกว่าเข้าเส้นชัยอย่างสวยงาม รายการนี้เราทั้งหมดได้ออกทีวีท้องถิ่น จริง ๆ แล้วหลาย ๆ รายการเราได้ออกทีวีกันเพราะทีวีที่นั่นจะค่อนข้างมีข่าวท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่ ความประทับใจครั้งนั้นอยู่ที่รายการข่าวที่มีนักกีฬาขาด้วนวิ่งเข้าเส้นชัย ก่อนที่พี่หนุ่มจะสปรินท์เต็มที่แข่งกับเด็กวัยประมาณสิบกว่า ๆ (โดยไม่รู้ว่าชายขาด้วนเพิ่งเข้าไปก่อนหน้านี้) ดูในข่าวแล้วมันสนุกจริง ๆ ครับ เพราะนั่งดูอยู่ด้วยกันทั้งสามคน
ผมเคยไปแข่งขันที่รายการที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ MsT’s Chicago Triathlon ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับผมมาก ๆ เพราะวันนั้นเป็นครั้งแรกที่พี่หนุ่มที่เริ่มจากว่ายน้ำไม่เป็นเลย ที่ผมช่วยสอนว่ายน้ำจากเริ่มแตะขา จนกระทั่งลงรายการไตรกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ การได้ว่ายน้ำที่ชิคาโก ทำให้ผมคุยได้เต็มปากว่าการว่ายน้ำเจ้าพระยานั้น สะอาดดว่าชิคาโกเป็นอย่างมาก ที่ชิคาโกเหม็นมากขอบอก พี่หนุ่มว่ายถึงเป็นคนสุดท้ายและจบการแข่งขันอย่างสวยงาม การแข่งที่ชิคาโกครั้งนั้น แม้ว่าจะได้พ่วงการเที่ยวไปด้วย ทำให้ผมพบว่าการแข่งขันรายการเล็ก ๆ นอกเมืองนั้น บรรยากาศการแข่งขัน มันสนุกสนานกว่ากันมากมาย สวยกว่า สบายกว่า เป็นมิตรกว่า ผมไม่เคยกลับไปแข่งที่ชิคาโกอีกเลยหลังจากนั้น
ในงานแข่งหลาย ๆ งาน ผมได้เพื่อนใหม่แบบไม่ได้ตั้งใจ เพื่อนที่ฟิตเนส เมื่อเห็นเราซ้อม เมื่อเจอกันในงานแข่ง มีอยู่รายการหนึ่งที่ผมไปทุกปีเพราะเส้นทางปั่นที่สวยงาม ปั่นในป่า ขึ้นเขาวกวนก่อนมาจบที่ทะเลสาปที่ใช้ว่ายน้ำ ชื่อรายการว่า Ashtabula Triathlon ผมมักจะขับรถไปแต่เช้ามืดเพื่อไปนอนรอก่อนแข่ง เนื่องจากที่พักไม่ค่อยสะดวกนักในพื้นที่นั้น รายการสปรินท์ ออกตัวในน้ำคล้าย ๆ กันการแข่งโอลิมปิกสมัยนี้ การออกตัวแบบนี้ทำให้ผมได้เปรียบ เพราะปกติผมจะไม่ค่อยชอบออกตัวเร็ว ไม่ชอบโดนถีบ ไม่ชอบแย่งกันว่าย แต่พอทุกคนออกตัวพร้อม ๆ กันแบบนี้ ผมจึงมีโอกาสนำขึ้นหน้าได้ง่าย ในงานนั้นผมทำผิดพลาดครั้งใหญ่ ทำให้ผมไม่กล้าที่จะทำอีกเลย นั่นคือ ผมว่ายน้ำอย่างเต็มที่ ปรากฏว่าเข้าเส้นมาเป็นที่หนึ่ง ก่อนที่จะค่อย ๆ กลายเป็นที่ 10 ตอนปั่น และหายไปเมื่อวิ่ง เพราะความเร็วในการวิ่งของผมเมื่อก่อนนั้นค่อนข้างแย่ หลาย ๆ คนเชียร์ผม ต้องกลับมาถามว่าผมหายไปไหน ผมได้เพื่อนใหม่ในวันนั้นหลายคน ส่วนใหญ่เป็นรุ่นน้องที่มหาลัยที่เห็นผมซ้อมว่ายน้ำ หรือวิ่ง จึงตั้งใจเชียร์ผมในวันที่ผมได้ที่หนึ่งว่ายน้ำในวันนั้นเอง
Akron Triathlon ก็เป็นรายการที่ผมชอบอีกรายการหนึ่ง เพราะสนามแข่งขันดี ปั่นสนุก เพื่อน ๆ มักจะไปกันครบทุกคน สิ่งที่ผมมีความสุขเสมอ คือบรรยากาศการแข่งขันที่อเมริกานั้น เหมาะกับเป็นกิจกรรมครอบครัวเป็นอย่างมาก เราจะเห็นแต่ละคนมีครอบครัวมาคอยให้กำลังใจ บรรยากาศใกล้ ๆ เส้นใจเต็มไปด้วยความสุข ความรักตลบอบอวล งานที่ Akron เป็นงานหนึ่งที่ให้บรรยากาศแบบนี้ และความรู้สึกแบบนี้ส่งผลมากับผมจนถึงทุกวันนี้ ในอีกรายการที่เป็นเสมือนงานที่สำคัญที่สุดคือ รายการ Cleveland Triathlon บางปีเรียกว่า Keybank Tri บางปีเรียกว่า Rock N’ Roll Tri แล้วแต่ว่าสปอนเซอร์หลักจะเป็นใคร แต่เป็นรายการใหญ่ประจำปีของเมืองที่ผมอยู่ จะเป็นรายการที่ผมจะมีเพื่อน ๆ มาเชียร์มากที่สุด
ระยะ Olympic distance นับว่าเป็นระยะที่สำคัญที่สุดในยุคนั้น เพราะรายการใหญ่ ๆ ประจำปีจะเป็นระยะนี้ทั้งสิ้น รวมถึงที่ Cleveland ด้วย ผมได้พบกับนักกีฬาดัง ๆ ในสมัยนั้น ที่เป็น idol ของผมอย่าง Mike Pigg, Puala Newby-Fraser ได้พบ Peter Reid, Karen Smyer หลาย ๆ คนเคยมาเป็นแชมป์ในรายการลากูนาไตรกีฬาในยุคแรก ๆ แล้วทั้งนั้น พี่หนุ่มเริ่มเข้าสู่วงการที่นี่ด้วยการเป็น Volunteer ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นนักกีฬาในปีถัด ๆ ไป ถ้าจะให้คิดก็คงเหมือนรายการกรุงเทพไตรกีฬา ที่ว่ายน้ำที่ Lake Erie ที่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่าง Rock N’ Roll Hall of Fame ปั่นขึ้นทางด่วนของเมืองอย่าง I-90 และวิ่งวนผ่านสถานที่สำคัญของเมือง การแข่งขันในเมืองใหญ่ ๆ บรรยากาศไม่ค่อยอบอุ่นมากนัก แต่เนื่องจากเป็นเมืองของผม เพื่อน ๆ ที่ตื่นเต้นกับการได้รู้จักนักไตรกีฬาอย่างผมก็มาเชียร์กันถ้วนหน้า สร้างความสุขให้กับผมไม่ใช่น้อย ผมเคยทำโซ่หลุดแล้วดึงจนตีนผีหักที่รายการนี้
ผมกลับมาเมืองไทยเริ่มชีวิตการทำงาน ทำให้ผมลืมการออกกำลังกายไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง ผมแข่งขันครั้งแรกที่รายการลากูน่าภูเก็ต ด้วยความไม่พร้อม แต่ก็เป็นครั้งแรกที่การเดินทางแข่งขันของผมเริ่มเปลี่ยนไป ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวผมจึงพ่วง element ของการท่องเที่ยวเข้าไปด้วยอย่างมาก ผมกลับไปภูเก็ตเป็นครั้งที่สองของชีวิต หลังจากที่เคยไปกับครอบครัวตั้งแต่ยังเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ พักผ่อนจากงานประจำและเล่นกีฬาที่เรารัก แต่หลังจากนั้นอาการกระดูกสันหลังเสื่อมก็ทำให้ผมต้องหยุดไป แต่ด้วยเมื่อสุขภาพเสื่อมโทรมจนคิดว่าต้องเริ่มกลับมาทำอะไรสักอย่าง ผมจึงตัดสินใจไปภูเก็ตอีกครั้งเพื่อไปชมการแข่งขัน สร้างกำลังใจ และเป็นครั้งแรกที่ผมพาภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันไม่กี่เดือนไปด้วย เป็นการพักผ่อนกับครอบครัวของผมเอง และให้ความหวังกำลังใจกับชีวิตไตรกีฬาของผม หลังจากนั้นผมก็เริ่มกลับมาซ้อมอย่างจริงจัง และใช้กีฬาสร้างชีวิต และการเดินทางให้กับผมอีกครั้ง
ปัจจุบันนี้ ผมซ้อมทุกวัน (ที่ไม่อู้ซ้อม) แข่งขันในทุก ๆ รายการที่ทำได้ ในการเดินทางทุกครั้ง ผมไม่เคยเร่งรีบ ในการเดินทางทุกครั้งผมมีครอบครัวไปให้กำลังใจ ผมเดินทาง ท่องเที่ยว พักผ่อนในที่พักสบาย ๆ ที่ให้ความสะดวกสบายไม่ต่างจากการอยู่ที่บ้าน หรือบางครั้งหรูหรา กว่าที่บ้าน ลูก ๆ ผมค่อย ๆ โตขึ้นเรื่อย ๆ จากที่แม่เข็นมาให้กำลังใจในช่วงปล่อยตัว จนทุกวันนี้จะมารอคอยเพื่อวิ่งเข้าเส้นด้วยกันกับพ่อ ผมใช้โอกาสในการเดินทางแข่งขันนี้เป็นวันของครอบครัวอย่างเต็มที่ เป็นวันที่ผมไม่ทำงานใด ๆ ตั้งแต่เริ่มออกรถจากบ้าน เดินทางไปด้วยกัน เข้าที่พัก เที่ยวไปในเมืองต่าง ๆ ที่ไปแข่ง จนถึงการแข่งขัน ท่องเที่ยวพักผ่อนหลังการแข่งขัน บรรยากาศสบาย ๆ อาหารอร่อย ๆ เป็นของขวัญให้กับครอบครัวของผม ที่เสียสละให้ผมซ้อมทุก ๆ วัน ให้ผมได้ใช้งบประมาณในอุปกรณ์ต่าง ๆ ผมคืนให้ด้วยเวลาของผม ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ต้องเสียไป ถ้าจะตีเป็นเงินว่ามันคุ้มค่าหรือไม่ สำหรับผมแล้วมันคุ้มค่าเสมอ เงินมันไม่เคยมีค่าอะไรเลยสำหรับผม ผมยอมที่จะเสียเงินไปแลกกับเวลาที่ผมจะได้กลับมา ผมยอมที่จะเสียเงินไปเพื่อความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคนในครอบครัว ประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ของลูก ๆ ของผม
ในช่วงหลังนี้เพื่อนร่วมก๊วนของผมเริ่มมากขึ้น ถึงขนาดมีทีม ชื่อทีม ชุดทีมของพวกเรากันเอง การแข่งขันแต่ละครั้งมันยิ่งมีความหมายมากขึ้น การซ้อมมันมีความหมายมากขึ้น ผมรู้ว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับหลาย ๆ คน ผมรู้ว่าแนวความคิด และการใช้ชีวิตของผมจะเป็นกำลังใจให้กับหลาย ๆ คน การซ้อมของผมแต่ละวัน มีผลให้เพื่อน ๆ หันมาออกกำลังกาย การลงทะเบียนเพื่อแข่งแต่ละครั้งจะทำให้หลาย ๆ คนออกกำลังกายไปอีกหลายชั่วโมง การซ้อมการแข่งของผมในทุกวันนี้มีความหมายเพิ่มขึ้นทุกที ผมมีครอบครัวของผมไปด้วยทุกครั้ง เพื่อบรรยากาศความสุขของครอบครัวผมเอง และผมกำลังพยายามสร้างสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้นในรายการของคนไทย ให้คนไทยใช้เวลากิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับครอบครัวมากขึ้น โดยเริ่มต้นจากเพื่อนร่วมทีมของผมก่อน ซึ่งเพื่อน ๆ ใกล้ ๆ ตัวของผมก็เริ่มกันบ้างแล้ว ครอบครัวเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งครับ สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ สร้างความรักและผูกพันธ์ุขึ้นในครอบครัวอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว ในอีกไม่กี่ปีผมคงสามารถเพิ่มระยะทางการแข่งขัน รวมถึงการเดินทางที่เป็นกิจกรรมประจำปีของครอบครัวที่จะสนุกขึ้นเรื่อย ๆ ครับ ผมเคยคิดว่าสิ่งที่ทำให้ผมทุ่มเวลาให้กับครอบครัวโดยไม่สนเรื่องราวอื่น ๆ นั่นมาจากการสูญเสียลูกสาวคนแรกของผมไป ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ซูริ เป็นคนที่สอนผมในเรื่องนี้ครับ เวลาหาซื้อไม่ได้ เงินจะหาเมื่อไรก็ได้ ขอให้มีความสุขกับการใช้เวลาของทุก ๆ คนครับ
สนุกมากครับ..ผมอ่านย้อนหลังไปหลายเรื่องเลย หวังว่าปีหน้าผมคงจะมีโอกาสลงไตรหรือทวิบ้าง
ยินดีครับ